Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง
Key Takeaways
- วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีช่วยลดความเสี่ยงโรคตับอักเสบเรื้อรังและมะเร็งตับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วัคซีนตับอักเสบบีเหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะทารกแรกเกิด ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และบุคลากรทางการแพทย์
- การฉีดวัคซีนครบตามกำหนดช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่ยาวนานและปกป้องสุขภาพตับในระยะยาว ช้อปแพ็กเกจวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีได้เลยที่ Health Plaza
ไวรัสตับอักเสบบีคืออะไร อันตรายหรือไม่?
ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B virus) คือเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดการอักเสบของตับ และอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ทั้งแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมอาจนำไปสู่โรคตับแข็ง (Cirrhosis) และมะเร็งตับ (Hepatocellular Carcinoma) ได้
สิ่งสำคัญที่เราต้องทราบคือไวรัสตับอักเสบบีติดต่อทางไหน โดยปกติแล้วไวรัสตับอักเสบบีติดต่อผ่านเลือด สารคัดหลั่งทางเพศสัมพันธ์ และการถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกขณะคลอด ผู้ที่ติดไวรัสตับอักเสบบีมักมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่เข้ารับการดูแลรักษา
ทำไมต้องฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี?
การฉีดวัคซีนตับอักเสบบีมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากโรคนี้สามารถก่อให้เกิดภาวะเรื้อรังและโรคร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับตับได้ การฉีดวัคซีนจึงเป็นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย เหตุผลที่ควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีมีดังนี้
- ป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี จากการสัมผัสเลือด สารคัดหลั่ง เพศสัมพันธ์ และการถ่ายทอดจากแม่สู่ลูก
- ลดความเสี่ยงโรคร้ายแรงที่เกี่ยวกับตับ เนื่องจากผู้ติดเชื้อเรื้อรังมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคตับแข็ง (Cirrhosis) และมะเร็งตับ (Hepatocellular Carcinoma)
- สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ หากประชาชนได้รับวัคซีนอย่างแพร่หลาย จะช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัส และช่วยปกป้องผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดหรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
ช้อปแพ็กเกจวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ราคาพิเศษจากโรงพยาบาลในเครือ BDMS พร้อมส่วนลด On Top ได้ที่นี่
ใครควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี?
วัคซีนไวรัสตับอักเสบบีเป็นหนึ่งในวัคซีนพื้นฐานที่สำคัญ เพราะช่วยลดการติดเชื้อที่อาจนำไปสู่ โรคตับเรื้อรัง ตับแข็ง และมะเร็งตับ กลุ่มที่ควรได้รับวัคซีน ได้แก่
- วัคซีนตับอักเสบบีเป็นหนึ่งในวัคซีนเด็กที่ทารกแรกเกิดทุกคนควรได้รับเข็มแรกภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด ตามด้วยการฉีดครบตามกำหนด เพื่อป้องกันการถ่ายทอดจากแม่สู่ลูก
- เด็กและวัยรุ่นที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
- บุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องสัมผัสสารคัดหลั่ง มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ
- ผู้ที่มีคู่นอนหลายคนหรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
- ผู้ที่ต้องอาศัยอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อหรือพาหะเรื้อรัง
- ผู้ป่วยโรคตับหรือไตเรื้อรัง และผู้ที่ต้องฟอกไต
- ผู้ที่ต้องเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของโรคไวรัสตับอักเสบบี
เตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
การฉีดวัคซีนตับอักเสบบีเป็นวิธีการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อความปลอดภัยและเตรียมพร้อมให้ร่างกายตอบสนองต่อวัคซีนได้มากที่สุด ควรเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนดังนี้
- หากไม่แน่ใจว่าเคยฉีดวัคซีน หรือได้รับวัคซีนครบหรือไม่ แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจเลือดเพื่อดูระดับภูมิคุ้มกัน (Anti-HBs) ก่อนรับวัคซีน หรือตรวจในช่วงการตรวจสุขภาพประจําปี
- แจ้งให้แพทย์ทราบหากมีโรคประจำตัว เช่น โรคตับเรื้อรัง ไตเรื้อรัง ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- หากกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน
- หากมีไข้สูงหรืออาการป่วยหนัก ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนจนกว่าจะหายดี
- พักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ
ผลข้างเคียงจากวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
การฉีดวัคซีนตับอักเสบบีถือว่ามีความปลอดภัยสูงและใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก แต่อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับวัคซีนทุกชนิด อาการโดยทั่วไปมักไม่รุนแรงและหายได้เองภายในไม่กี่วัน แต่หากพบอาการผิดปกติ หรืออาการไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย เช่น
- ปวด บวม หรือแดงบริเวณที่ฉีด
- มีไข้ต่ำ ๆ
- อ่อนเพลีย
- ปวดศีรษะหรือปวดเมื่อยตามร่างกาย
ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย เช่น
- มีไข้สูง
- อาการแพ้วัคซีนเล็กน้อย เช่น ผื่นคัน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
1. วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีต้องฉีดกี่เข็ม?
สำหรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ผู้ใหญ่ และเด็กโตที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนตับอักเสบบีมาก่อนควรได้รับวัคซีน 3 เข็มตามกำหนดที่ 0–1–6 เดือน เช่นเดียวกับทารก หากลืมฉีด ไม่จำเป็นต้องเริ่มใหม่ สามารถฉีดต่อให้ครบได้ กรณีผู้ที่เคยได้รับวัคซีนแล้วแต่ไม่แน่ใจว่ามีภูมิหรือไม่ แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจเลือด (Anti-HBs) เพื่อดูภูมิคุ้มกัน
2. หากลืมนัดฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีทำอย่างไร?
วัคซีนตับอักเสบบีเป็นวัคซีนที่ต้องฉีดให้ครบตามกำหนดที่ 0–1–6 เดือน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสูงสุด แต่หากลืมหรือพลาดนัด ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นใหม่ สามารถฉีดต่อได้ หรือสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการฉีดวัคซีนต่อได้
3. วัคซีนไวรัสตับอักเสบบีอยู่ได้กี่ปี?
หลังจากฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มตามกำหนดที่ 0–1–6 เดือน ตัววัคซีนสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายได้นานอย่างน้อย 20–30 ปี และในหลายกรณีภูมิคุ้มกันอาจอยู่ได้ตลอดชีวิต หากไม่แน่ใจแพทย์อาจแนะนำให้ตรวจเลือด (Anti-HBs) เพื่อดูภูมิคุ้มกัน
วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ฉีดก่อน ป้องกันโรคเรื้อรังระยะยาว
วัคซีนไวรัสตับอักเสบบีถือเป็นหนึ่งในวัคซีนสำคัญที่ช่วยปกป้องสุขภาพตับ เนื่องจากไวรัสตับอักเสบบีสามารถก่อให้เกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง และมะเร็งตับได้ การฉีดวัคซีนครบตามกำหนดจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพ
ช้อปแพ็กเกจสุขภาพได้เลยที่ Health Plaza รวมแพ็กเกจตรวจสุขภาพมาตรฐาน BDMS สะดวก ใช้งานง่าย พร้อมส่วนลด On Top
สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @healthplaza
Content powered by BeDee Expert
เรียบเรียงโดย
กรวรรณ ใจซื่อกุล
References
Hepatitis B Prevention and Control. (2025, January 31). Centers for Disease Control and Prevention.https://www.cdc.gov/hepatitis-b/prevention/index.html
Vaccine for Hepatitis B. (n.d.). Hepatitis B Foundation.https://www.hepb.org/prevention-and-diagnosis/vaccination/
Hepatitis B. (2025, July 23). World Health Organization.https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/hepatitis-b