Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง
Key Takeaways
- งูสวัดคือโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อ Varicella Zoster Virus ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส
- โรคงูสวัดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้เกิดอาการปวดแสบ ปวดร้อน มีไข้ต่ำ ๆ มีตุ่มน้ำใสขึ้นบริเวณผิวหนัง
- การฉีดวัคซีนคือวิธีป้องกันการเกิดโรคที่มีประสิทธิภาพสูง เลือกซื้อแพ็กเกจวัคซีนงูสวัด ราคาพิเศษจากโรงพยาบาลในเครือ BDMS ได้ที่ Health Plaza
งูสวัดคืออะไร?
งูสวัด คือโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อไวรัส Varicella Zoster Virus ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส (Chickenpox) หลังจากที่เราเคยเป็นอีสุกอีใสแล้ว เชื้อนี้จะไม่หายไปจากร่างกาย แต่จะไปหลบซ่อนอยู่ในปมประสาท (Nerve Ganglia) และเมื่อระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เช่น ในผู้สูงอายุ ผู้ที่มีความเครียด หรือมีโรคประจำตัวบางอย่าง เชื้อที่หลบซ่อนอยู่จะสามารถกลับมาก่อโรคได้อีกครั้งในรูปแบบของ “งูสวัด”
อาการของโรคงูสวัด

หลังหายจากอีสุกอีใสแล้วเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดงูสวัด (Varicella Zoster Virus) จะหลบซ่อนอยู่ในปมประสาท และสามารถกลับมาก่อโรคอีกครั้งได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ หรือภูมิคุ้มกันต่ำ งูสวัดอาการแบ่งออกเป็น 3 ระยะดังนี้
ระยะก่อนมีผื่น
- เกิดขึ้น 1–5 วันก่อนผื่นขึ้น
- รู้สึกปวดแสบ ปวดร้อน คัน หรือชาบริเวณผิวหนัง
- บางรายอาจมี ไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ
ระยะผื่นและตุ่มน้ำ
- มีผื่นแดงตามแนวเส้นประสาท เช่น รอบเอว หน้าอก หลัง หรืองูสวัดขึ้นหน้า (มักเป็นข้างเดียวเท่านั้น) แต่ในกรณีผู้ที่มีผู้คุ้มกันต่ำอาจพบผื่นงูสวัดกระจายรอบตัวมากกว่าคนทั่วไป
- ผื่นกลายเป็นตุ่มน้ำใส เรียงเป็นแนว หรือกระจุก
- ปวดแสบปวดร้อนบริเวณผื่นอย่างมาก
- อาการใกล้หายของงูสวัดคือ ตุ่มน้ำแตก กลายเป็นแผล ตกสะเก็ดและหายภายใน 2–4 สัปดาห์
ระยะหลังผื่นหาย
- ผู้ป่วยยังคงมีอาการปวดแม้ผื่นจะหายแล้ว หลายคนจึงรู้สึกว่างูสวัดหายแล้วแต่ยังปวดอยู่ได้
ช้อปแพ็กเกจวัคซีนงูสวัดราคาพิเศษจากโรงพยาบาลในเครือ BDMS พร้อมส่วนลด On Top ได้ที่นี่
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคงูสวัด
โรคงูสวัดสามารถก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อย เช่น
- ปวดปลายประสาทหลังงูสวัด (Postherpetic Neuralgia – PHN) ผู้ป่วยจะมีอาการปวดแสบ ปวดร้อน หรือปวดจี๊ด ๆ บริเวณที่เคยมีผื่นแม้จะหายแล้ว
- ติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนที่ผิวหนัง
- งูสวัดขึ้นตา (Herpes Zoster Ophthalmicus) อาจทำให้กระจกตาอักเสบ ม่านตาอักเสบ ต้อหิน หรือถึงขั้นตาบอด
- งูสวัดในหู (Herpes Zoster Oticus / Ramsay Hunt Syndrome) ปวดหู ตุ่มน้ำในหู สูญเสียการได้ยิน บ้านหมุน หรือหน้าเบี้ยวครึ่งซีก
- ปัญหาระบบประสาท เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) สมองอักเสบ (Encephalitis) หรือเส้นประสาทอักเสบ (Myelitis)
- งูสวัดแพร่กระจายทั่วร่างกาย (Disseminated Herpes Zoster) พบได้ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยโรคเอดส์
สาเหตุการเกิดโรคงูสวัด
โรคงูสวัด (Herpes Zoster) เกิดจากการติดเชื้อ Varicella Zoster Virus ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส (Chickenpox) เมื่อเราติดเชื้อ Varicella Zoster Virus ครั้งแรก จะทำให้เป็นโรคอีสุกอีใส
หลังหายจากอีสุกอีใสแล้ว ไวรัสจะไม่ถูกกำจัดออกจากร่างกายทั้งหมด แต่จะไปซ่อนอยู่ในปมประสาท (Nerve Ganglia) ของไขสันหลังหรือเส้นประสาทสมอง เมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันลดลง เช่น มีความเครียด อายุมากขึ้น หรือการเจ็บป่วย ไวรัสจะตื่นขึ้นมาและทำให้เกิดผื่นแดง ปวดแสบปวดร้อน และเกิดตุ่มน้ำตามแนวเส้นประสาท หรือทำให้เกิดโรคงูสวัดในที่สุด
ใครคือกลุ่มเสี่ยงต่อโรคงูสวัดบ้าง?
โรคงูสวัดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอเช่น
- ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV หรือผู้ป่วยโรคเอดส์
- ผู้ที่เคยเป็นโรคอีสุกอีใส เนื่องจากไวรัสยังคงหลบซ่อนอยู่ในร่างกายและสามารถกลับมาก่อโรคได้เมื่อภูมิคุ้มกันลดลง
- ผู้ที่มีความเครียดสะสมหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคไต
วิธีวินิจฉัยโรคงูสวัด
การวินิจฉัยโรคงูสวัดมักจะใช้การสังเกตลักษณะผื่นและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยมีแนวทางดังนี้
- ซักประวัติและตรวจร่างกาย แพทย์จะสอบถามอาการปวด ลักษณะผื่นที่เกิดขึ้น
- ตรวจเชื้อไวรัสทางห้องปฏิบัติการจากตุ่มน้ำ
- การตรวจเลือด
วิธีรักษาโรคงูสวัด
งูสวัดรักษายังไงดี? การรักษามีเป้าหมายเพื่อบรรเทาอาการ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และลดระยะเวลาการเป็นโรค ควรเริ่มรักษาภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีอาการจะได้ผลดีที่สุด แนวทางการรักษา เช่น
- ยาต้านไวรัส เป็นแนวทางการรักษาหลักของโรคงูสวัด
- ยาบรรเทาอาการปวด เช่น พาราเซตามอล หรือยาในกลุ่ม NSAIDs
- ยาแก้ปวดปลายประสาท สำหรับอาการปวดปลายประสาทหลังงูสวัด (PHN)
- ยาทาเฉพาะที่ เช่น ครีมแคปไซซิน หรือแผ่นแปะลิโดเคน
วิธีป้องกันโรคงูสวัด
โรคงูสวัดสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งจะช่วยลดทั้งความเสี่ยงในการเป็นงูสวัด และลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจรุนแรงได้
- ฉีดวัคซีนป้องกันงูสวัด เป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุดในการป้องกันโรค วัคซีนที่ใช้ ได้แก่
- Shingrix (วัคซีนชนิดเชื้อตาย) สำหรับผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- Zostavax (วัคซีนเชื้อเป็น) ใช้ในบางประเทศแต่ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- ผู้ที่เคยเป็นอีสุกอีใสหรือเคยเป็นงูสวัดมาก่อน ยังสามารถฉีดวัคซีนได้
- ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- หลีกเลี่ยงความเครียด
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ติดเชื้อในช่วงมีตุ่มน้ำ
- ในช่วงที่มีตุ่มน้ำ งูสวัดสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ (โดยเฉพาะผู้ไม่เคยเป็นมาก่อน)
- ควรปิดแผลให้มิดชิด หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับหญิงตั้งครรภ์ ทารก และผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคงูสวัด
1. งูสวัดพันรอบตัวแล้วตายจริงไหม?
งูสวัดพันรอบตัวแล้วทำให้เสียชีวิตนั้นไม่เป็นความจริง โดยส่วนใหญ่แล้วงูสวัดมักเกิดขึ้นกับร่างกายเพียงซีกเดียวเท่านั้น และสามารถรักษาให้หายได้
2. งูสวัดสามารถติดต่อได้ไหม?
งูสวัดไม่ติดต่อโดยตรงเหมือนไข้หวัดทั่วไป แต่สามารถแพร่เชื้อไวรัส Varicella Zoster ได้
โดยผู้ที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใส หรือไม่เคยได้รับวัคซีนอีสุกอีใสมาก่อนอาจติดเชื้อและกลายเป็นอีสุกอีใสได้
3. งูสวัดติดต่อทางไหน?
หลายคนมักสงสัยว่างูสวัดติดต่อง่ายไหม ติดต่อทางไหน โรคงูสวัดติดต่อผ่านการสัมผัสของเหลวจากตุ่มน้ำ บนผิวหนัง หรือการสัมผัสกับสิ่งของที่เปื้อนน้ำจากตุ่มงูสวัด เช่น ผ้าปูที่นอน ผ้าขนหนู เสื้อผ้า ไม่ได้แพร่เชื้อผ่านการไอหรือจาม
ฉีดวัคซีนงูสวัดเพื่อป้องกัน
แม้ว่าโรคงูสวัดจะดูเหมือนเป็นแค่ผื่นตามผิวหนัง แต่จริง ๆ แล้วอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ควรฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการเกิดโรคและลดความรุนแรง
ช้อปแพ็กเกจสุขภาพได้เลยที่ Health Plaza รวมแพ็กเกจตรวจสุขภาพมาตรฐาน BDMS สะดวก ใช้งานง่าย พร้อมส่วนลด On Top
สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @healthplaza
Content powered by BeDee Expert
เรียบเรียงโดย
กรวรรณ ใจซื่อกุล
Mayo Clinic Staff. (2022, August 20). Shingles. Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/shingles/symptoms-causes/syc-20353054
Shingles. (2025, January 17). CDC. https://www.cdc.gov/shingles/about/index.html
Shingles. (n.d.). Johns Hopkins Medicine. https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-and-diseases/shingles