BeDee

หิวบ่อยหลังกินข้าวไม่นานทำอย่างไรดี? ดูวิธีป้องกัน และแก้ไข

Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง

Key Takeaways

 

  • หิวบ่อยไม่ได้เกิดจากแค่อดอาหาร แต่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน ระดับน้ำตาลในเลือด พฤติกรรมการทานอาหาร และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
  • สัญญาณเตือน เช่น หิวเร็วผิดปกติ น้ำหนักขึ้นง่าย หรือหิวตอนดึก อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ควรตรวจเช็ก
  • ป้องกันและแก้ไขได้ด้วยการเลือกอาหารที่อิ่มนาน เช่น โปรตีน ไฟเบอร์ ไขมันดี หรือปรึกษาคุณหมอได้ที่ BeDee
สารบัญบทความ

อาการแบบไหนเข้าข่ายหิวบ่อยมากกว่าปกติ ?

เคยรู้สึกไหมว่าหิวตลอดเวลา กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม ทั้งที่เพิ่งรับประทานอาหารเสร็จ? อาการหิวบ่อยอาจเกิดขึ้นได้กับหลายคน และบางครั้งอาจเกิดจากพฤติกรรมการกินหรือการใช้ชีวิตประจำวัน แต่หากรู้สึกว่าหิวบ่อยผิดปกติ ร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น น้ำหนักขึ้นหรือลดโดยไม่ทราบสาเหตุ อ่อนเพลีย หรือกระหายน้ำมาก อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ เช่น โรคเบาหวาน ภาวะฮอร์โมนผิดปกติ หรือโรคกินไม่หยุด อาการหิวตลอดเวลา หิวบ่อย อาจมีอาการที่พบได้ ดังนี้

 

  1. หิวบ่อยแม้เพิ่งกินอาหาร 1–2 ชั่วโมงก็รู้สึกหิวอีก มักเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตหรือน้ำตาลสูง ทำให้ระดับน้ำตาลขึ้นเร็วแล้วตกลงเร็ว
  2. หิวร่วมกับอาการทางกาย มือสั่น ใจสั่น เหงื่อออก เวียนหัว สัมพันธ์กับระดับน้ำตาลในเลือดที่ไม่คงที่
  3. หิวตอนกลางคืน (Night hunger) อาจเกี่ยวข้องกับความเครียด ฮอร์โมนผิดปกติ หรือโรคเบาหวาน
  4. กินมากขึ้นแต่ไม่รู้สึกอิ่ม รับประทานอาหารในปริมาณมากแต่ยังอยากกินต่อ เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนควบคุมความหิว เช่น เลปติน (Leptin) หรือเกรลิน (Ghrelin)
  1. หิวร่วมกับน้ำหนักเปลี่ยนแปลงผิดปกติ น้ำหนักลดลงรวดเร็ว อาจบ่งชี้โรคเบาหวานชนิดที่ 1 หรือไทรอยด์ หรือน้ำหนักขึ้นง่าย คุมไม่ได้ อาจเกี่ยวข้องกับภาวะดื้อต่ออินซูลินหรือ PCOS

หิวบ่อยเกิดจากอะไร? สาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกหิว

หิวบ่อย เกิดจาก

อาการหิวบ่อยสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ หลายคนพยายามทานอาหารลดน้ำหนัก ทำIF แต่ก็รู้สึกหิว และทรมาน จริง ๆ แล้วอาการหิวบ่อยนั้นเกิดได้จากปัจจัยด้านร่างกาย และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนี้

  1. พฤติกรรมการกิน
    เช่น การทานแต่คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น ขนมปังขาว ขนมหวาน น้ำอัดลม ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงแล้วตกลงเร็ว ร่างกายจึงส่งสัญญาณทำให้รู้สึกหิวบ่อย

  2. ดื่มน้ำน้อย
    อาจทำให้ร่างกายสับสนระหว่าง “กระหายน้ำ” กับ “หิว”

  3. การใช้พลังงานมากกว่าปกติ
    ช่วงที่ออกกำลังกายหนัก ทำงานที่ใช้แรงมาก หรือช่วงเจริญเติบโต (วัยรุ่น) ร่างกายจะใช้พลังงานสูง จึงรู้สึกหิวบ่อย

  4. ภาวะทางสุขภาพ
    อาจเกิดจากโรคเบาหวาน ซึ่งทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้หิวบ่อย กระหายน้ำ และน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

  5. ไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism)
    ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานเร็วผิดปกติ หิวมากขึ้น

  6. ภาวะดื่มแอลกอฮอล์ หรือการนอนหลับไม่เพียงพอ
    ส่งผลต่อฮอร์โมนความหิว (Ghrelin) และฮอร์โมนอิ่ม (Leptin) ทำให้ร่างกายเกิดความอยากอาหารมากขึ้น

  7. ภาวะฮอร์โมนผิดปกติ
    เช่น PCOS บางรายมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้หิวบ่อย

  8. ปัจจัยทางอารมณ์และจิตใจ
    ความเครียด วิตกกังวล หรือซึมเศร้า กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้หิวหรืออยากกินของหวานมากขึ้น

รู้สึกหิวบ่อยแก้ไขอย่างไรดี? 

หิวบ่อย แก้ยังไงดี ? หลายคนอาจเคยเจอปัญหารู้สึกหิว แม้ว่าจะเพิ่งรับประทานอาหารไปไม่นาน อาการนี้ไม่ใช่เพียงแค่ความอยากอาหารเท่านั้น แต่ยังอาจบ่งบอกถึงการเลือกอาหารที่ไม่เหมาะสม หรือพฤติกรรมบางอย่างที่ควรปรับ 

  1. ปรับพฤติกรรมการกิน 
    • เลือกอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว เพื่อช่วยให้อิ่มนาน 
    • เพิ่มโปรตีนคุณภาพดี เช่น ไข่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา เต้าหู้ ช่วยคงระดับน้ำตาลในเลือด 
    • หลีกเลี่ยงอาหารหวานจัด แป้งขัดสี และน้ำอัดลม ที่ทำให้หิวเร็ว
    • ดื่มน้ำให้เพียงพอ 6–8 แก้วต่อวัน
  2. จัดตารางมื้ออาหารให้เหมาะสม
    • ทานมื้อหลักให้ครบ 3 มื้อ ไม่อดอาหาร
    • หากหิวระหว่างมื้อ ควรเลือกของว่างที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผลไม้สด โยเกิร์ตไม่หวาน
  3. นอนหลับให้เพียงพอ
    • การนอนน้อยทำให้ฮอร์โมนความหิว (Ghrelin) สูงขึ้น และฮอร์โมนอิ่ม (Leptin) ลดลง
    • ควรนอนพักผ่อนให้ได้คุณภาพ 7–9 ชั่วโมงต่อคืน
    • ความเครียดทำให้ทานมากขึ้น ควรหาวิธีคลายเครียด เช่น ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ฟังเพลง
  4. จัดการความเครียด
    • ความเครียดทำให้ทานมากขึ้น ควรหาวิธีคลายเครียด เช่น ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ฟังเพลง
  5. ใช้เปปไทด์คุมหิว
    • ฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมความหิว ( Semaglutide ) ช่วยควบคุมความอยากอาหาร ตัวยาช่วยออกฤทธิ์ทำให้อิ่มเร็วขึ้น อาหารย่อยและดูดซึมช้าลง จึงทำให้อิ่มนาน ลดการทานจุกจิก ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย สิ่งสำคัญคือควรใช้ภายใต้คำแนะนำและการดูแลจากแพทย์เท่านั้น

 

มีปัญหาการลดน้ำหนัก การดูแลรูปร่าง ปรึกษาหมอออนไลน์ ที่แอป BeDee ได้ทุกวัน 

สะดวก เป็นส่วนตัว ส่งยาถึงที่

หิวบ่อยป้องกันอย่างไรดี? 

การหิวบ่อยอาจเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งการทานอาหารไม่สมดุล การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือแม้แต่ความเครียด ดังนั้นการเรียนรู้วิธีป้องกันอาการหิวบ่อยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้ควบคุมการกินได้ดีขึ้น ช่วยดูแลสุขภาพ และลดความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญ สามารถทำได้ด้วยวิธีดังนี้

  • ทานอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด 
  • เพิ่มโปรตีนไม่ติดมันในแต่ละมื้อ เช่น ไข่ ถั่ว และนม 
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงของหวานและแป้งขัดสี
  • นอนหลับเพียงพอ และได้คุณภาพ
  • หลีกเลี่ยงความเครียด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการหิวบ่อย

1. ทําไมถึงตื่นเช้าแล้วหิวมาก ?

หลายคนมักสังเกตว่าตื่นเช้าแล้วหิวมาก ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุหลัก ๆ ร่างกายไม่ได้รับอาหารหลายชั่วโมงในขณะนอนหลับ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ สมองจึงส่งสัญญาณให้ทานอาหารเพื่อเพิ่มพลังงาน นอกจากนี้ยังมี ฮอร์โมนควบคุมความหิว 2 ตัวสำคัญ ที่ทำงานร่วมกันคือ

  • Ghrelin – เป็นฮอร์โมนที่ผลิตโดยกระเพาะอาหาร ทำหน้าที่ กระตุ้นความหิว เมื่อระดับ Ghrelin สูง จะทำให้เรารู้สึกหิวและอยากอาหารมากที่สุด ฮอร์โมนนี้มักสูงที่สุดในช่วงเช้า ทำให้หลายคนรู้สึกหิวทันทีหลังตื่น
  • Leptin – เป็นฮอร์โมนที่ผลิตจาก เซลล์ไขมัน ทำหน้าที่ตรงข้ามกับ Ghrelin คือส่งสัญญาณไปยังสมองว่า ร่างกายมีพลังงานเพียงพอและรู้สึกอิ่ม เมื่อระดับ Leptin ลดลง เช่น ในช่วงเช้า ทำให้ความอิ่มลดลงและรู้สึกหิวมากขึ้น

2. ปากกาลดน้ำหนักปลอดภัยหรือไม่ ?

การใช้ปากกาลดน้ำหนักที่ผ่านการรับรองโดย อย. ไทยนั้นถือว่ามีความปลอดภัย แต่สิ่งสำคัญเลือกซื้อปากกาลดน้ำหนักจากผู้ให้บริการสุขภาพที่เชื่อถือได้ และต้องได้รับคำแนะนำและควบคุมการใช้ ควบคุมการปรับระดับยาโดยแพทย์เท่านั้น ไม่ควรหาซื้อปากกาลดน้ำหนักมาใช้เองเพราะอาจทำให้ได้รับระดับยาที่ไม่เหมาะสมกับร่างกาย และทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้

หิวบ่อยเกินไป กินจุกจิกไม่หยุด ปรึกษาคุณหมอได้ที่ BeDee

อาการหิวบ่อยเกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ปัญหาสุขภาพ และอื่น ๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่เราอาจไม่รู้ตัวหากไม่ได้ปรึกษาแพทย์ ปัญหาการกินบ่อย กินจุกจิกทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ และน้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากมีปัญหาการทานอาหาร ปัญหารูปร่าง ต้องการควบคุมน้ำหนักกับคุณหมอ ปรึกษาได้เลยที่ BeDee

 

BeDee พบหมอเฉพาะทางเครือ BDMS ได้ทันที ไม่ต้องรอ ส่งยาทั่วไทย มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล พื้นที่ปลอดภัย สู่สุขภาพใจที่ดีกว่า โดยบุคลากรมืออาชีพ

 

สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @BeDeebyBDMS

 

เรียบเรียงโดย 

กรวรรณ ใจซื่อกุล

References

 

British Heart Foundation. (n.d.). How to stop overeating: Tips to control your appetite. British Heart Foundation.https://www.bhf.org.uk/informationsupport/heart-matters-magazine/nutrition/how-to-stop-overeating

Mayo Clinic Staff. (2021, November 18). Weight loss: 6 strategies for success. Mayo Clinic.https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/weight-loss/in-depth/weight-loss/art-20047342

Mayo Clinic Staff. (2023, August 1). Semaglutide (subcutaneous route): Description and brand names. Mayo Clinic.https://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/semaglutide-subcutaneous-route/description/drg-20406730

Exit mobile version