BeDee

BPD คืออะไร? รู้จักการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์แบบรักมาก เกลียดมากอย่างรวดเร็ว

Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง

Key Takeaways

 

  • BPD คือ ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีลักษณะอารมณ์ไม่มั่นคง ความสัมพันธ์กับผู้อื่นแปรปรวน ความรู้สึกต่อตัวเองไม่แน่นอน และมักมีพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น 
  • ตัวอย่างอาการ เช่น มีความสัมพันธ์แบบทั้งรัก ทั้งเกลียด หรือรู้สึกว่าดีมาก ยอดเยี่ยมมากแล้วเปลี่ยนเป็นรู้สึกแย่มากในทันที
  • BPD รักษาได้ด้วยการปรึกษาจิตแพทย์ ทำจิตบำบัด และรับประทานยาร่วมด้วย
สารบัญบทความ

ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง BPD คืออะไร แตกต่างจากไบโพลาร์อย่างไร?

ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง หรือ Borderline Personality Disorder (BPD) คือ ภาวะความผิดปกติทางบุคลิกภาพทางการแพทย์ ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีลักษณะอารมณ์ไม่มั่นคง ความสัมพันธ์กับผู้อื่นแปรปรวน ความรู้สึกต่อตัวเองไม่แน่นอน และมักมีพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น 

 

BPD แตกต่างจากโรคอารมณ์สองขั้วหรือโรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder) อย่างชัดเจนในหลายด้าน ผู้ที่เป็น BPD จะมีอารมณ์แปรปรวนอย่างรวดเร็ว อารมณ์เปลี่ยนแปลงหลายครั้งในวันเดียว เช่น รู้สึกรักสุดใจ แล้วกลับกลายเป็นโกรธหรือเกลียดทันทีเมื่อรู้สึกถูกทอดทิ้ง

 

ในขณะที่ผู้ป่วยโรคไบโพลาร์จะมีช่วงอารมณ์แปรปรวนเป็นรอบชัดเจน เช่น ภาวะเมเนีย (Mania) คือช่วงที่ผู้ป่วยจะรู้สึกคึกคัก พลังเยอะ พูดเร็ว ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย และภาวะซึมเศร้า (Depression) คือช่วงที่ผู้ป่วยจะรู้สึกหมดแรง เบื่อหน่าย คิดเกี่ยวกับความตายบ่อย ๆ โดยแต่ละขั้วอารมณ์นั้นมักเกิดขึ้นยาวนานเป็นสัปดาห์

 

ไม่แน่ใจว่าจะปรึกษาจิตแพทย์ที่ไหนดี คุยกับคุณหมอที่แอป BeDee ได้ทุกวัน 

สะดวก เป็นส่วนตัว ส่งยาถึงที่

อาการ BPD มีลักษณะอย่างไร สังเกตอย่างไรดี?

อาการ BPD

หลายคนอาจสับสนอาการ BPD กับอาการของโรคทางจิตเวชอื่น ๆ โดยทั่วไปแล้วอาการที่มีลักษณะเด่นของ BPD คืออาการอารมณ์ไม่คงที่ เปลี่ยนแปลงเร็ว ซึ่งมีรายละเอียดอื่น ๆ ร่วมด้วยดังนี้

 

  • อารมณ์ไม่คงที่ อารมณ์เปลี่ยนแปลงเร็วมาก เช่น รู้สึกโกรธ เสียใจ ซึมเศร้า หรือว่างเปล่าในช่วงเวลาสั้น ๆ
  • กลัวการถูกทอดทิ้งอย่างรุนแรง พยายามอย่างมากที่จะหลีกเลี่ยงการถูกละเลยหรือทอดทิ้ง
  • รู้สึกว่างเปล่า บ่อยครั้งรู้สึกว่าชีวิตไม่มีความหมาย
  • มีปัญหาด้านความสัมพันธ์ มักมีความสัมพันธ์ที่รุนแรงและแปรปรวน เช่น รัก-เกลียดในคนคนเดียว หรือรู้สึกว่ายอดเยี่ยมมากแล้วเปลี่ยนเป็นรู้สึกแย่มากในทันที
  • พฤติกรรมหุนหันพลันแล่น เช่น ใช้จ่ายเงินเกินตัว กินมากเกินไป ขับรถเสี่ยงอันตราย ใช้สารเสพติด หรือพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม
  • มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือคิดฆ่าตัวตาย เช่น กรีดแขน พฤติกรรมเสี่ยง หรือพยายามฆ่าตัวตายซ้ำ ๆ

 

BeDee Tips: ไม่แน่ใจอาการตัวเองและคนใกล้ชิด อ่านเรื่อง อาการทางจิตสังเกตยังไง เพิ่มเติมเลย

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด BPD มีอะไรบ้าง? 

Borderline Personality Disorder หรือ BPD นั้นเกิดจากสาเหตุและปัจจัยหลายอย่างด้วยกันทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

 

  • พันธุกรรม

หากคนในครอบครัว โดยเฉพาะพ่อแม่หรือพี่น้อง มีภาวะ BPD หรือโรคจิตเวชอื่น เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากกว่าคนทั่วไป

 

  • ความผิดปกติของสมอง

การทำงานของสมองส่วนที่ควบคุม อารมณ์ การตัดสินใจ และแรงกระตุ้น (เช่น Amygdala, Prefrontal Cortex) ของผู้ป่วย BPD อาจมีความผิดปกติบางอย่าง รวมถึงสารเคมีในสมอง เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) อาจมีความไม่สมดุลทำให้เกิดความผิดปกติทางบุคลิกภาพ

 

  • ประสบการณ์ในวัยเด็กและสิ่งแวดล้อม

เด็กที่เคยถูกทำร้ายร่างกาย ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกทอดทิ้ง มีเหตุการณ์สะเทือนใจซ้ำ ๆ มีความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ไม่มั่นคง ขาดความอบอุ่น ขาดการยอมรับ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด BPD

วิธีรักษา BPD ให้ดีขึ้นทำอย่างไร?

วิธีการรักษาและดูแลอาการ BPD ให้ดีขึ้นนั้นจำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่างทั้งการทำจิตบำบัด การใช้ยา และการดูแลตัวเองของผู้ป่วยร่วมกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

  • การทำจิตบำบัด DBT (Dialectical Behavior Therapy), CBT (Cognitive Behavioral Therapy)
  • การใช้ยา (Medication) แพทย์อาจสั่งยากลุ่ม SSRI เพื่อช่วยลดอาการซึมเศร้า วิตกกังวล หรือยากลุ่ม Mood stabilizers เพื่อช่วยควบคุมอารมณ์รุนแรง
  • การดูแลตนเอง ผู้ป่วยสามารถฝึกการกำหนดสติ เพื่อรู้เท่าทันอารมณ์, เขียนบันทึกความรู้สึก, ออกกำลังกายเป็นประจำ และควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และสารเสพติด
  • การรักษาแบบกลุ่ม และครอบครัว การเข้าร่วมการรักษาแบบกลุ่มช่วยให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว นอกจากนี้ยังสามารถทำการบำบัดแบบครอบครัว เพื่อช่วยให้คนรอบข้างเข้าใจและช่วยเหลือได้ดีขึ้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ BPD

1. BPD อันตรายหรือไม่? 

BPD หรือความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง เป็นภาวะทางด้านจิตใจที่อาจเป็นอันตรายได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เนื่องจากผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายสูง มีอารมณ์รุนแรงและเปลี่ยนเร็ว มีความรู้สึกกลัวถูกทิ้ง หรือว่างเปล่าอย่างรุนแรง ทำให้ขาดการควบคุมพฤติกรรม

2. BPD รักษาหายได้ไหม?

BPD สามารถรักษาจนอาการดีขึ้นได้ด้วยการปรึกษาจิตแพทย์ ทำจิตบำบัด และรับประทานยา การรักษาจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมอารมณ์ สร้างความสัมพันธ์ และใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น ลดพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น

BPD คือกลุ่มอาการทางด้านจิตใจที่ต้องได้รับการดูแล

ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่งเป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อความคิด อารมณ์ ความสัมพันธ์ และคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างรุนแรง ผู้ป่วยสามารถรักษาอาการให้ดีขึ้นได้ หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ 

 

BeDee พบหมอเฉพาะทางเครือ BDMS ได้ทันที ไม่ต้องรอ ส่งยาทั่วไทย มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล พื้นที่ปลอดภัย สู่สุขภาพใจที่ดีกว่า โดยบุคลากรมืออาชีพ

 

สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @BeDeebyBDMS

 

Content powered by BeDee Expert

เรียบเรียงโดย

กรวรรณ ใจซื่อกุล

References

 

Borderline personality disorder (BPD). (2022, September). Mind.https://www.mind.org.uk/information-support/types-of-mental-health-problems/borderline-personality-disorder-bpd/about-bpd/

Mayo Clinic Staff. (2024, January 31). Borderline personality disorder. Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/borderline-personality-disorder/symptoms-causes/syc-20370237

Borderline personality disorder. (n.d.). NIH. https://www.nimh.nih.gov/health/topics/borderline-personality-disorder

Exit mobile version