Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง Key Takeaways มะเร็งทวารหนักคือมะเร็งชนิดหนึ่งที่มีสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อไวรัส HPV โดยเฉพา
ตรวจคัดกรองมะเร็งสำคัญอย่างไร เมื่อไหร่ควรตรวจ ?
Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง
Key Takeaways
- การตรวจคัดกรองช่วยให้พบความผิดปกติก่อนเกิดอาการ เพิ่มโอกาสในการรักษา และลดความรุนแรงของโรคในระยะยาว
- การตรวจคัดกรองมะเร็ง ช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากกว่า และลดความซับซ้อนของการรักษาในระยะท้าย
- ช้อปแพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งชายและหญิง ราคาพิเศษจาก N Health เครือ BDMS ได้ที่เว็บไซต์ Health Plaza
สารบัญบทความ
ตรวจคัดกรองมะเร็งคืออะไร สำคัญอย่างไร
โรคมะเร็งเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทยและทั่วโลก เนื่องจากเป็นโรคที่สามารถเกิดได้กับอวัยวะเกือบทุกส่วนของร่างกาย และมักไม่มีอาการในระยะเริ่มต้น ทำให้หลายคนตรวจพบเมื่อโรคเข้าสู่ระยะลุกลามแล้ว ซึ่งยากต่อการรักษา และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต เซลล์มะเร็งสามารถแพร่กระจายจากอวัยวะหนึ่งไปสู่อวัยวะอื่น ๆ เช่น มะเร็งเต้านมแพร่ไปที่กระดูก หรือปอด ทำให้การรักษาซับซ้อนและผลลัพธ์แย่ลง ดังนั้นนอกจากการตรวจสุขภาพประจําปี เรายังควรคำนึงถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งอีกด้วย
การตรวจคัดกรองมะเร็ง (Cancer Screening) คือกระบวนการตรวจหาความผิดปกติหรือตรวจหาเซลล์มะเร็งในร่างกาย โดยใช้วิธีการทางการแพทย์ เช่น การตรวจเลือด เอกซเรย์ แมมโมแกรม การส่องกล้อง หรือการตรวจทางห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง เพื่อค้นหาความเสี่ยงหรือเซลล์ผิดปกติที่อาจพัฒนาเป็นมะเร็งในอนาคต
ตรวจคัดกรองมะเร็ง ควรตรวจอะไรบ้าง
หนึ่งในวิธีที่นิยมสำหรับการตรวจคัดกรองมะเร็งคือการตรวจสารบ่งชี้มะเร็ง คือการตรวจเลือดเพื่อหาสารชีวเคมีที่ถูกสร้างขึ้นโดยเซลล์มะเร็ง หรือโดยร่างกายเพื่อตอบสนองต่อการเกิดมะเร็ง การตรวจนี้ช่วยให้ประเมินความเสี่ยง เป็นการตรวจคัดกรอง หรือติดตามผลการรักษาของผู้ป่วยมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ สารบ่งชี้มะเร็งที่นิยมตรวจมีดังนี้
- CEA (Carcinoembryonic Antigen)
ใช้ตรวจคัดกรองและติดตามการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก, มะเร็งตับอ่อน, และมะเร็งปอด
กรณีพบว่าค่า CEA สูงกว่าปกติ อาจบ่งชี้ถึงความเสี่ยงของมะเร็งได้หลายชนิด
2. AFP (Alpha-Fetoprotein)
ใช้ตรวจคัดกรองมะเร็งตับ (Hepatocellular carcinoma) และบางกรณีใช้ในการประเมินมะเร็งอัณฑะ
มักใช้ร่วมกับการอัลตราซาวด์ช่องท้อง เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตรวจ
3. CA 125 (Cancer Antigen 125)
ใช้ตรวจคัดกรองมะเร็งรังไข่ในผู้หญิง โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้ หากพบว่าระดับ CA 125 สูง อาจสัมพันธ์กับโรคมะเร็งรังไข่ แต่บางครั้งอาจเพิ่มขึ้นได้จากภาวะอื่น เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
4. CA 15-3 / CA 27-29
ใช้ในการติดตาม และประเมินการรักษาร่วมกับการตรวจมะเร็งเต้านม
5. PSA (Prostate-Specific Antigen)
ใช้ตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก ในผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป หากค่าผิดปกติ แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจทางทวารหนักหรืออัลตราซาวด์เพิ่มเติม
6. β-hCG (Beta Human Chorionic Gonadotropin)
ใช้ในการตรวจ มะเร็งอัณฑะ และ มะเร็งรังไข่บางชนิด
ซื้อแพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งราคาพิเศษจาก N Health ในเครือ BDMS พร้อมส่วนลด On Top ได้ที่นี่
ใครควรตรวจคัดกรองมะเร็งบ้าง
โดยทั่วไปการตรวจคัดกรองมะเร็งเหมาะกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและบุคคลคนทั่วไป เพราะมะเร็งหลายชนิดสามารถรักษาได้ผลดีหากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ที่ควรรับการตรวจเป็นพิเศษ ได้แก่
- ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
โดยเฉพาะเมื่อเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เหนื่อยง่าย หรือมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง
2. ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็ง
เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือมะเร็งตับ เนื่องจากมะเร็งกลุ่มนี้มักจะมีโอกาสถ่ายทอดทางพันธุกรรม
3. ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง
เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารปิ้งย่าง อาหารไขมันสูง หรือไม่ค่อยออกกำลังกาย
4. ผู้ที่สัมผัสสารก่อมะเร็ง
เช่น ผู้ทำงานในโรงงานสารเคมี โรงงานโลหะหนัก หรืองานที่สัมผัสรังสี
5. ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด
เช่น ไวรัสตับอักเสบบีหรือซี, โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง , หรือผู้หญิงที่มีซีสต์รังไข่เรื้อรัง
วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งทำอย่างไร
การตรวจคัดกรองมะเร็งโดยการตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง (Tumor Markers) เป็นวิธีทางห้องปฏิบัติการที่ช่วยประเมินความเสี่ยงของโรคมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โดยใช้การตรวจเลือด ปัสสาวะ หรือของเหลวในร่างกายเพื่อหาสารเคมีบางชนิดที่เซลล์มะเร็งหรือร่างกายผลิตขึ้นมากผิดปกติ
ขั้นตอนการตรวจโดยทั่วไป
- เก็บตัวอย่างเลือดหรือปัสสาวะ
แพทย์จะเจาะเลือดจากแขน หรือเก็บตัวอย่างปัสสาวะ และส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ ซึ่งตัวอย่างจะถูกนำไปวิเคราะห์หาค่าสารบ่งชี้มะเร็ง (Tumor markers) เมื่อได้ผลตรวจจากห้องปฏิบัติการแล้วจึงจะวิเคราะห์ผล หากพบค่าสูงผิดปกติอาจแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองมะเร็ง
1. ตรวจคัดกรองมะเร็งราคาเท่าไหร่ ?
ปัจจุบันการตรวจคัดกรองหาสารบ่งชี้มะเร็งนั้นมีขั้นตอนที่ง่าย ไม่ซับซ้อน และมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น สามารถเลือกซื้อแพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งชายและหญิงได้ที่ Health Plaza
2. ตรวจคัดกรองมะเร็งที่ไหนดี ?
การตรวจคัดกรองมะเร็งตรวจกับห้องปฏิบัติการที่มีผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือทันสมัย และมาตรฐานการตรวจที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์และการวางแผนดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง
Health Plaza รวบรวมแพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งจาก N Health เครือ BDMS สามารถเลือกแพ็กเกจที่เหมาะกับเพศ วัย และความเสี่ยงของตัวเองได้ง่าย ๆ พร้อมส่วนลดเพิ่ม ซื้อออนไลน์สะดวกทุกขั้น
ตรวจคัดกรองมะเร็ง รู้ทันสุขภาพ ลดค่าใช้จ่ายในอนาคต
การตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และเป็นอีกหนึ่งวิธีการตรวจเบื้องต้น เพื่อประเมินความเสี่ยง หากพบค่าผิดปกติจะช่วยให้สามารถตรวจเพิ่มเติมและรักษาได้ทัน เพิ่มโอกาสหายขาดจากมะเร็งได้มากขึ้น
ช้อปแพ็กเกจสุขภาพได้เลยที่ N Health บนเว็บไซต์ Health Plaza รวมแพ็กเกจตรวจสุขภาพมาตรฐาน BDMS สะดวก ใช้งานง่าย พร้อมส่วนลด On Top
สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @healthplaza
References
National Cancer Institute. (2024, January 10). Tumor markers: List of common tumor markers used in cancer diagnosis. National Cancer Institute. https://www.cancer.gov/about-cancer/diagnosis-staging/diagnosis/tumor-markers-list
Canadian Cancer Society. (2024, March 5). Tumour marker tests: How they help diagnose and monitor cancer. Canadian Cancer Society. https://cancer.ca/en/treatments/tests-and-procedures/tumour-marker-tests
Cancer Treatment Centers of America. (2024, February 20). Tumor markers: Understanding their role in cancer diagnosis. Cancer Treatment Centers of America. https://www.cancercenter.com/diagnosing-cancer/diagnostic-procedures/tumor-markers