มีพบก็ต้องมีจาก… การสูญเสียบุคคลหรือสิ่งที่รัก เช่น บุคคลที่เรารัก หรือสัตว์เลี้ยง เมื่อถึงเวลาหนึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องพบเจอเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่มีสิ่งใดอยู่กับเราได้ตลอดไป แม้แต่ตัวเราเองก็ตาม แต่การสูญเสียส่งผลกระทบต่อจิตใจไม่น้อย โดยเฉพาะการสู
LGBTQ+ วิธีทำความเข้าใจ เมื่อความหลากหลายไม่ใช่อาการป่วย
Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง
Key Takeaways
- LGBTQ+ ไม่ใช่ความผิดปกติ แต่เป็นความหลากหลายตามธรรมชาติของมนุษย์ในเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศ, รสนิยมทางเพศ และการแสดงออกทางเพศ
- ในปี 1990 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ถอดการรักเพศเดียวกันออกจากรายการโรคทางจิตเวช
- หากมีปัญหาเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศ หรือมีความเครียด ความกดดัน ไม่รู้จะสื่อสารกับครอบครัวอย่างไร สามารถปรึกษาจิตแพทย์ นักจิตวิทยาคลินิก และนักจิตบำบัดที่ BeDee ได้ทุกวัน
LGBTQ+ คืออะไร? ความหลากหลายทางเพศที่ไม่จำกัดแค่ชายหรือหญิง
LGBTQ+ คือคำที่ใช้เรียกรวมกลุ่มของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพศชายหรือหญิงแบบเดิม โดยคำว่า LGBTQ+ ย่อมากจากตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมกลุ่มต่าง ๆ ได้แก่
- L – Lesbian ผู้หญิงที่รักหรือมีแรงดึงดูดทางเพศต่อผู้หญิงด้วยกัน
- G – Gay ผู้ชายที่รักหรือมีแรงดึงดูดทางเพศต่อผู้ชาย (บางคนอาจใช้เรียกกลุ่มรักเพศเดียวกันโดยทั่วไป)
- B – Bisexual ผู้ที่รักหรือรู้สึกดึงดูดต่อสองเพศหรือมากกว่า
- T – Transgender ผู้ที่มีอัตลักษณ์ทางเพศแตกต่างจากเพศสภาพ
- Q – Queer คือคำที่ใช้เรียกรวมๆ ถึงความหลากหลายทางเพศที่ไม่ได้อยู่ในกรอบของความเป็นชาย-หญิงแบบดั้งเดิม ทั้งในด้านอัตลักษณ์ทางเพศ (Gender Identity) และ รสนิยมทางเพศ (Sexual Orientation)
- + แสดงถึงกลุ่มอื่น ๆ ที่หลากหลาย และอัตลักษณ์ทางเพศที่ไม่อาจรวมไว้ในตัวอักษรข้างต้นได้
คำว่า LGBTQ+ จึงเป็นการสื่อถึงการยอมรับ ความเท่าเทียม และการไม่เลือกปฏิบัติต่อกลุ่มคนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศและเพศสภาพแตกต่างจากแบบแผนทั่วไป
BeDee Tips: กังวลใจ อึดอัดใจ ไม่รู้จะปรับตัวอย่างไร ปรึกษาจิตแพทย์ที่ไหนดี อ่านเลย
สีของธง LGBTQ+ มีความหมายว่าอะไร ?

ธง Rainbow Pride ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ LGBTQ+ ถูกออกแบบครั้งแรกในปี 1978 โดย Gilbert Baker ศิลปินและนักกิจกรรมเพื่อสิทธิ LGBTQ ชาวอเมริกัน และใช้สีทั้งหมด 8 สี แต่ละสีมีความหมายเฉพาะตัวดังนี้
- ชมพูร้อน (Hot Pink) หมายถึง Sexuality – เป็นตัวแทนของพลังแห่งเพศและความรักทางกายภาพ ซึ่งแสดงถึงความเป็นมนุษย์ในแง่มุมที่เป็นธรรมชาติ
- แดง (Red) หมายถึง Life – สื่อถึงชีวิต พลังแห่งการดำรงอยู่ และความมีชีวิตชีวาของมนุษย์ทุกคน
- ส้ม (Orange) หมายถึง Healing – แสดงถึงการเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ ความหวังในการฟื้นตัวจากความเจ็บปวด
- เหลือง (Yellow) หมายถึง Sunlight – สื่อถึงแสงสว่าง ความสดใส และการมองโลกในแง่ดี
- เขียว (Green) หมายถึง Nature – แสดงถึงความเชื่อมโยงกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว
- ฟ้าเทอร์ควอยซ์ (Turquoise) หมายถึง Magic / Art – เป็นตัวแทนของศิลปะ จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และเวทมนตร์
- คราม (Indigo) หมายถึง Serenity – แสดงถึงความสงบ สติ และความสมดุลในชีวิต
- ม่วง (Violet) หมายถึง Spirit – สื่อถึงจิตวิญญาณ ความเข้มแข็งภายใน และความศรัทธาในตัวเอง
ปัจจุบันธง LGBTQ+ ถูกตัดเหลือเพียง 6 สีเนื่องจากสี Hot Pink ไม่สามารถผลิตผ้าได้ในเชิงพาณิชย์
สี Turquoise ถูกตัดเพื่อทำให้จำนวนสีเหลือเป็นจำนวนคู่ แบ่งครึ่งได้ง่าย ส่วนสี Indigo กับ Violet ถูกรวมเป็นสี Royal Blue (น้ำเงิน)
ความหลากหลายทางเพศผิดปกติหรือไม่ ?
ความหลากหลายทางเพศหรือ LGBTQ+ นั้นไม่ใช่ความผิดปกติ แต่เป็นความหลากหลายตามธรรมชาติของมนุษย์ในเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศ (Gender Identity), รสนิยมทางเพศ (Sexual Orientation) และการแสดงออกทางเพศ (Gender Expression)
ในปี 1990 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ถอดการรักเพศเดียวกันออกจากรายการโรคทางจิตเวช
(International Classification of Diseases – ICD-10) สมาคมจิตแพทย์อเมริกัน (APA) ระบุอย่างชัดเจนว่า “การรักเพศเดียวกันไม่ใช่ความผิดปกติทางจิตใจ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา”
และเราไม่ควรพยายามเปลี่ยนเพศสภาพหรือรสนิยมทางเพศของใคร
มีปัญหา LGBTQ+ ปรึกษาแพทย์ได้ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
ปัจจุบันการปรึกษาจิตแพทย์ นักจิตวิทยาคลินิก หรือนักจิตบำบัดนั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และเป็นสิ่งที่เราควรทำอย่างยิ่งเมื่อมีปัญหาทางด้านจิตใจ เช่นเดียวกับเรื่องทางเพศ หาก LGBTQ+ เผชิญกับความเครียด วิตกกังวล หรือเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า อันเนื่องมาจากการเลือกปฏิบัติ หรือความสับสนในตัวตน สามารถปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านสุขภาพจิต และผู้เชี่ยวชาญได้โดยตรง
ปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อลูกหลานเป็น LGBTQ+ ?
เมื่อรู้ว่าลูกหลานเป็น LGBTQ+ สิ่งสำคัญคือการสร้าง “พื้นที่ปลอดภัย” และแสดงให้เขารู้ว่า “ยังมีคุณอยู่เคียงข้างเสมอ” วิธีปฏิบัติหลัก ๆ ได้แก่
- แสดงความรักและการยอมรับด้วยคำพูดง่าย ๆ เช่น “พ่อแม่รักหนูเสมอ” แทนการเงียบหรือแสดงความกังวลที่มากเกินไป เพราะการตอบเชิงบวกช่วยลดความเครียดและความเศร้าซึมได้
- เปิดใจสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ ชวนลูก ๆ คุยด้วยคำถามง่าย ๆ เช่น “วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง” หรือ “มีอะไรให้พ่อแม่ช่วยไหม” โดยไม่ตะคอกหรือกดดัน เพราะการสื่อสารแบบให้เกียรติจะทำให้เขากล้าพูดความรู้สึกจริง ๆ กับคุณ
- ศึกษาและทำความเข้าใจเรื่อง LGBTQ+ ว่าไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ใช่อาการป่วย
- ทำให้บ้านให้เป็นที่ปลอดภัย (Safe Home Environment) หลีกเลี่ยงคำพูดหรือมุกล้อเลียนเชิงลบ เพื่อไม่ให้มีการกลั่นแกล้งภายในบ้าน และพูดคุยกับญาติผู้ใหญ่หรือโรงเรียนหากจำเป็น เพื่อให้ลูกหลานรู้สึกมั่นใจว่าเขาจะไม่ถูกกีดกันและแบ่งแยก
- ส่งเสริมการดูแลสุขภาพจิต (Mental Health Support)
หากลูกหลานมีภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือเครียดมาก ควรแนะนำให้พบจิตแพทย์หรือผู้ให้คำปรึกษา
- เคารพความเป็นส่วนตัว ไม่พยายามกดดัน บีบคั้นเพื่อเอาคำตอบจากลูกหากพวกเขาไม่พร้อมที่จะพูด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ LGBTQ+
1. หากลูกอยากแปลงเพศควรทำไหม ?
การเปลี่ยนแปลงเพศสภาพเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน คำถามที่ว่า “ลูกควรแปลงเพศหรือไม่” ไม่ใช่เรื่องที่ตัดสินใจแทนได้ทันที แต่พ่อแม่ควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ให้ลูกค้นหาตัวตน และคอยช่วยเมื่อลูกต้องการ อาจเริ่มต้นจากการเปิดใจรับฟังลูกโดยไม่ตัดสิน ให้ลูกได้เล่าความรู้สึกเกี่ยวกับเพศสภาพของตนเองอย่างปลอดภัย หรือแนะนำให้ลูกพูดคุยกับจิตแพทย์ นักจิตวิทยาคลินิก หรือนักจิตบำบัดที่มีประสบการณ์ด้าน LGBTQ+ จะช่วยประเมินความมั่นคงของอัตลักษณ์ทางเพศได้
2. จะบอกครอบครัวอย่างไรว่าเราเป็น LGBTQ+
การบอกครอบครัวว่าเราเป็น LGBTQ+ เป็นเรื่องใหญ่และเปราะบางสำหรับหลายคน ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน แต่ควรพูดในตอนที่คุณรู้สึกพร้อม อาจเริ่มจากพูดคุยกับคนที่เข้าใจหรือเปิดใจก่อน เช่น พี่น้อง เพื่อนสนิท จะช่วยให้รู้สึกปลอดภัยขึ้น หากรู้สึกไม่มั่นใจ เครียด หรือเศร้าใจ สามารถปรึกษาจิตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำได้
มีปัญหาเรื่อง LGBTQ+ ปรึกษาจิตแพทย์ได้
การที่ใครสักคนต้องการปรึกษาจิตแพทย์เกี่ยวกับเรื่องเพศสภาพ อัตลักษณ์ทางเพศ หรือความรู้สึกเกี่ยวกับตัวเองในฐานะ LGBTQ+ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือบ่งบอกถึงความเจ็บป่วยทางจิตใจ แต่เป็นการดูแลสุขภาพจิตอย่างเหมาะสม เหมือนกับการปรึกษาแพทย์เมื่อมีปัญหาทางร่างกาย ทีมจิตแพทย์จาก BeDee พร้อมเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้คุณ
BeDee พบหมอเฉพาะทางเครือ BDMS ได้ทันที ไม่ต้องรอ ส่งยาทั่วไทย มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล พื้นที่ปลอดภัย สู่สุขภาพใจที่ดีกว่า โดยบุคลากรมืออาชีพ
สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @BeDeebyBDMS
Content powered by BeDee Expert
เรียบเรียงโดย
กรวรรณ ใจซื่อกุล
The Guide to LGBTQ Acronyms: Is it LGBT or LGBTQ+ or LGBTQIA+?. (n.d.). The LGBTQ Community Center of the Desert. https://thecentercv.org/en/blog/the-guide-to-lgbtq-acronyms-is-it-lgbt-or-lgbtq-or-lgbtqia/
Rainbow Flag Color Meanings. (n.d.). Gilbert Baker. https://gilbertbaker.com/rainbow-flag-color-meanings/
Yurcaba, J. (2020, August 22). How To Support An LGBTQ+ Child. Woman’s Day. https://www.womansday.com/relationships/family-friends/a33637677/how-to-support-lgbtq-child/?utm_source=chatgpt.com