Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง การลดน้ำหนักในปัจจุบันมีหลายรูปแบบซึ่งหนึ่งในวิธีที่หลายคนน่าจะรู้จักดีคือการทำ IF 16/8 การทำ
ส่องกล้องทางเดินอาหาร แม่นยำสูง ความเสี่ยงต่ำ ป้องกันโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง
Key Takeaways
- การส่องกล้องทางเดินอาหาร (Endoscopy) เป็นการตรวจที่ใช้กล้องขนาดเล็ก สอดเข้าไปในหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้ เพื่อดูความผิดปกติภายใน
- การส่องกล้องสามารถทำได้ง่าย รวดเร็ว ไม่เจ็บตัว ไม่มีแผล ความเสี่ยงต่ำ
- ป้องกัน และตรวจคัดกรองด้วยแพ็กเกจส่องกล้องทางเดินอาหาร ราคาพิเศษจากโรงพยาบาลในเครือ BDMS ที่ Health Plaza
ส่องกล้องทางเดินอาหารคืออะไร?
การส่องกล้องทางเดินอาหาร (Endoscopy) คือการตรวจวินิจฉัยปัญหาในทางเดินอาหาร โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Endoscope ซึ่งมีลักษณะเป็นสายกล้องขนาดเล็กที่สามารถสอดเข้าไปในร่างกายได้ ผ่านทางปากหรือทวารหนัก เพื่อให้แพทย์มองเห็น และในบางกรณียังใช้อุปกรณ์นี้ช่วยรักษา เช่น ห้ามเลือด ตรวจดูเนื้องอก หรือเก็บชิ้นเนื้อเพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมได้อีกด้วย
ประโยชน์ของการส่องกล้องทางเดินอาหารมีอะไรบ้าง?
ส่องกล้องทางเดินอาหาร ตรวจอะไรบ้าง จริง ๆ แล้วประโยชน์ของการส่องกล้องนั้นมีหลายประการ ช่วยได้ทั้งการเฝ้าระวัง ตรวจคัดกรอง และติดตามอาการ โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องเจ็บตัว
- วินิจฉัยสาเหตุของอาการในระบบทางเดินอาหารได้ตรงจุด
เช่น อาการแสบร้อน กลืนลำบาก ปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องเสีย อาเจียน หรือมีเลือดออกจากลำไส้ - ตรวจหาโรคต่าง ๆ ด้วยความแม่นยำสูง
เช่น โรคกระเพาะอาหาร แผลในกระเพาะอาหาร เนื้องอก มะเร็ง การอักเสบ และภาวะแทรกซ้อนอื่นที่การตรวจทั่วไปอาจมองไม่เห็น - เก็บชิ้นเนื้อ (Biopsy) เพื่อส่งตรวจเพิ่มเติม
- ตรวจหามะเร็งระยะแรกเพื่อเพิ่มโอกาสรักษาหาย
ช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุทางเดินอาหารในระยะแรกเพื่อป้องกัน และรักษาได้ทันเวลา - ไม่มีแผล ไม่เจ็บตัว ความเสี่ยงต่ำ ใครที่กังวลว่าส่องกล้องทางเดินอาหาร เจ็บไหมจึงสามารถสบายใจได้
ใครบ้างที่ควรส่องกล้องทางเดินอาหาร?
ผู้ที่ควรส่องกล้องนั้นคือผู้ที่มีอาการในทางเดินอาหารซึ่งไม่ดีขึ้นจากการรักษาด้วยยา หรือผู้ที่จำเป็นต้องตรวจคัดกรอง หรือเฝ้าระวังเนื่องจากมีความเสี่ยงสูง โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ผู้ที่มีสัญญาณเตือนผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร
- กลืนลำบาก (Dysphagia)
- เจ็บขณะกลืน (Odynophagia)
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ท้องอืดเรื้อรัง หรืออาเจียนเป็นเลือด
- มีเลือดในอุจจาระ หรืออุจจาระดำ
- ผู้ที่มีอาการผิดปกติในระบบทางเดินอาหารซึ่งไม่ดีขึ้นจากการรักษาด้วยยา
- กรดไหลย้อน (GERD) อย่างรุนแรง
- ผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง หรือสงสัยว่ามีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร
- ผู้ที่จำเป็นต้องคัดกรองหรือเฝ้าระวังมะเร็งลำไส้ (Colon Cancer)
- เช่น ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคมะเร็งทางเดินอาหาร หรือผู้มีอายุตั้งแต่ 45–50 ปีขึ้นไป แม้จะไม่มีอาการผิดปกติ แต่ควรรับการตรวจคัดกรองร่วมกับการตรวจสุขภาพประจําปี
ช้อปแพ็กเกจส่องกล้องทางเดินอาหาร ราคาพิเศษจากโรงพยาบาลในเครือ BDMS
พร้อมส่วนลด On Top ได้ที่นี่
การส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบน (Gastroscopy) คืออะไร?
การส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบน (Gastroscopy หรือ Upper GI Endoscopy) เป็นวิธีตรวจที่แพทย์จะใช้กล้องขนาดเล็ก ยืดหยุ่นได้ (Endoscope) ที่มีกล้องและไฟส่องสว่างอยู่ปลายสาย สอดเข้าไปทางปากของผู้ป่วยผ่านหลอดอาหาร (Esophagus) เข้าสู่กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น เพื่อดูความผิดปกติของเยื่อบุและอวัยวะเหล่านี้อย่างละเอียด
ส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนล่าง (Colonoscopy) คืออะไร?
Colonoscopy (โคโลโนสโคปี) คือการตรวจทางการแพทย์ที่ใช้กล้องส่องขนาดเล็กที่ติดอยู่กับท่อยาวและยืดหยุ่นได้ สอดเข้าไปทางทวารหนักของผู้ป่วยเพื่อดูภายในลำไส้ใหญ่และไส้ตรง (Colon & Rectum) อย่างละเอียด เพื่อตรวจหาความผิดปกติ เช่น แผล ลำไส้อักเสบ เนื้องอก มะเร็งลำไส้ หรือใช้รักษา (Therapy) ตัดติ่งเนื้อ (Polyp Removal) ห้ามเลือด หรือเก็บชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา
ขั้นตอนส่องกล้องทางเดินอาหารทำอย่างไรบ้าง?
หลายคนอาจกังวลว่าส่องกล้องทางเดินอาหาร เตรียมตัวอย่างไร ทำยังไงบ้าง ใช้เวลานานไหม? สำหรับระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจนั้นขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้ว การส่องกล้องส่วนบน (Gastroscopy) มักใช้เวลาประมาณ 10–20 นาที ในขณะที่การส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนล่าง (Colonoscopy) จะใช้เวลาประมาณ 30–60 นาที ซึ่งมีขั้นตอนและรายละเอียดดังนี้
- ก่อนการส่องกล้องทางเดินอาหาร จำเป็นต้องงดอาหารอย่างน้อย 6–8 ชั่วโมงก่อนการตรวจ เพื่อป้องกันเศษอาหารตกค้าง
- กรณีส่องกล้องลำไส้ใหญ่ต้องมีการเตรียมลำไส้ 1-2 วันก่อนตรวจ ควรทานอาหารอ่อน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกากใยสูง และทานยาระบายตามแพทย์สั่งเพื่อเตรียมให้ลำไส้สะอาด
- กรณีมียาที่ต้องทานเป็นประจำ โดยเฉพาะยาละลายลิ่มเลือดควรแจ้งแพทย์ให้ทราบเพื่อพิจารณาว่าควรหยุดยาหรือไม่
- ขั้นตอนการส่องกล้องนั้น เริ่มแรกแพทย์จะให้ยาชาที่ลำคอ หรืออาจให้ยานอนหลับ เพื่อให้ผู้ป่วยผ่อนคลายและไม่รู้สึกเจ็บปวด
- ผู้ป่วยจะอยู่ในท่านอนตะแคงซ้าย
- แพทย์จะใช้กล้องขนาดเล็กที่มีลักษณะเป็นท่ออ่อนและมีเลนส์ขยายภาพตรงปลายค่อย ๆ สอดเข้าทางปาก (สำหรับส่วนบน) หรือทวารหนัก (สำหรับส่วนล่าง) พร้อมกับการใช้ลมเป่าเข้าไปเพื่อให้มองเห็นภายในได้อย่างชัดเจน
- แพทย์จะดูภาพจากจอรับภาพ หากพบสิ่งผิดปกติ เช่น ติ่งเนื้อ แผล หรือการอักเสบ แพทย์จะตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา หรือทำการรักษาอื่น ๆ ได้ทันที
- หลักจากการตรวจเสร็จสิ้นแล้วผู้ป่วยจะถูกย้ายไปยังห้องพักฟื้น เพื่อรอให้ผู้ป่วยตื่นจากยานอนหลับ จากนั้นจึงสามารถกลับบ้านได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการส่องกล้องทางเดินอาหาร
1. หลังส่องกล้องทางเดินอาหารควรดูแลตัวเองอย่างไร?
หลังส่องกล้องผู้ป่วยอาจพบอาการท้องอืด เรอ จากการใส่ลมเข้าไปในกระเพาะหรือลำไส้ ระคายคอ หรือเจ็บคอเล็กน้อย ในกรณีส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบน หรือมีลมออกทางทวารหนัก กรณีส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนล่าง วิธีดูแลตัวเองหลังส่องกล้องสามารถทำได้ดังนี้
- พักผ่อนจนกว่ายานอนหลับจะหมดฤทธิ์
- หลีกเลี่ยงการขับรถ การทำงานกับเครื่องจักร
- รับประทานอาหารอ่อน เริ่มจากการจิบน้ำ หากไม่มีอาการคลื่นไส้หรือปวดท้อง สามารถกลับไปรับประทานอาหารอ่อน ๆ ได้
- หลีกเลี่ยงอาหารมันจัด เผ็ดจัด หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันแรก
2. ส่องกล้องทางเดินอาหารมีผลข้างเคียงไหม?
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป เช่น อาการท้องอืด แน่นท้อง เรอ หรือมีลมออกทางทวารหนัก ระคายคอ เจ็บคอเล็กน้อย คลื่นไส้ หรือเวียนศีรษะเล็กน้อย จากฤทธิ์ยานอนหลับ ซึ่งอาการเหล่านี้จะดีขึ้นเองภายใน 1-2 วัน
3. ส่องกล้องทางเดินอาหาร ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
ราคาแพ็กเกจการส่องกล้องนั้นแตกต่างกันออกไปตามแต่ละโรงพยาบาล สามารถเลือกช้อปแพ็กเกจส่องกล้องจากโรงพยาบาลในเครือ BDMS ราคาพิเศษได้ที่ Health Plaza รวมแพ็กเกจสุขภาพพร้อมส่วนลดเพิ่มไว้ที่นี่ที่เดียว
ส่องกล้องทางเดินอาหารช่วยเฝ้าระวังโรค สะดวก รวดเร็ว ไม่เจ็บตัว แม่นยำสูง
ปัจจุบันการตรวจระบบทางเดินอาหารนั้นสามารถทำได้ง่าย รวดเร็ว แม่นยำสูง ความเสี่ยงต่ำ และผู้ป่วยไม่เจ็บตัวด้วยเทคโนโลยีการตรวจที่ทันสมัย ช่วยให้ผู้ป่วยตรวจพบและเฝ้าระวังโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ช้อปแพ็กเกจสุขภาพได้เลยที่ Health Plaza รวมแพ็กเกจตรวจสุขภาพมาตรฐาน BDMS สะดวก ใช้งานง่าย พร้อมส่วนลด On Top
สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @healthplaza
Content powered by BeDee Expert
เรียบเรียงโดย
กรวรรณ ใจซื่อกุล
References
American Cancer Society Medical and Editorial Content Team. (2024, February 16). What is colonoscopy?. American Cancer Society. https://www.cancer.org/cancer/diagnosis-staging/tests/endoscopy/colonoscopy.html
Mayo Clinic. (2022, May 26). Upper endoscopy. Mayo Foundation for Medical Education and Research.https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/endoscopy/about/pac-20395197
National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases. (2021). Colonoscopy. U.S. Department of Health and Human Services. https://www.niddk.nih.gov/health-information/diagnostic-tests/colonoscopy