แนะนำครีมลดริ้วรอยเหี่ยวย่น บำรุงล้ำลึก ช่วยยกกระชับผิว
พูดถึงเรื่องสัญญาณที่บ่งบอกถึงวัยคงหนีไม่พ้นเรื่องของ “ริ้วรอย” เรียกได้ว่าริ้วรอยเป็นศัตรูอย่างหนึ่งของทั้งคุณผู้หญิงหรือแม้แต่ผู้ชาย อย่างไรก็ตามด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันทำให้คนเรารับมือและจัดการกับริ้วรอยได้มากขึ้น มีการพัฒนาและคิดค้นส่วนผสมที่จะช่วยลดริ้วรอย เช่น ครีมลดริ้วรอย ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย แล้วเราจะเลือกใช้ตัวไหนดี ?
แนะนำ 3 ครีมลดริ้วรอยที่ดีที่สุด
หากยังไม่แน่ใจว่าจะใช้ครีมลดริ้วรอย ยี่ห้อไหนดี วันนี้เราได้รวมครีมลดริ้วรอยตัวดังจาก BeDee ที่คัดแล้วว่ามีส่วนผสมลดริ้วรอยน่าสนใจมาฝากกัน
1. Eucerin Hyaluron [HD] Radiance-Lift Filler 3D Serum
หนึ่งในครีมลดริ้วรอยที่ได้ผล Eucerin Hyaluron [HD] Radiance-Lift Filler 3D Serum นวัตกรรมครีมลดริ้วรอย อายุ 40 – 50 ปี ช่วยลดริ้วรอยและจุดด่างดำตามวัย และฟื้นบำรุงปัญหาผิว ด้วยสาร Thiamidol เอกสิทธิ์เฉพาะของยูเซอรินฟื้นฟูถึงต้นตอปัญหาผิว ช่วยลดรอยจุดด่างดำ พร้อมลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำอีก
และยังช่วยลดริ้วรอยลึกด้วยนวัตกรรมระหว่างไฮยาลูรอนโมเลกุลขนาดใหญ่และไฮยาลูรอนโมเลกุลขนาดเล็กที่สามารถซึมลึกสู่ชั้นผิวหนัง จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึก และช่วยให้ผิวเรียบเนียน อิ่มฟู
นอกจากนี้ครีมบํารุงผิวหน้าลดริ้วรอยยูเซอรินยังช่วยให้ผิวดูยืดหยุ่นด้วย Arctiin สารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ทรงพลัง ได้รับการรับรองแล้วว่าสามารถเสริมการทำงานของคอลลาเจนใต้ผิวหนัง พร้อมช่วยฟื้นบำรุงและกระชับผิววัย 40+ แม้ผิวหย่อนคล้อยมาก
2. Smooth E Gold Cream
ครีมบำรุงผิวหน้าช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยและจุดหมองคล้ำ Smooth E Gold Cream มีส่วนผสม Natural Tocopherol ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และยังมี Natural Marine Complex ซึมซาบสู่ผิวได้ลึกเพื่อผิวแลดูกระจ่างใส แลดูเปล่งปลั่ง และอ่อนเยาว์ สุดท้ายเลยคือครีมบํารุงลดริ้วรอยตัวนี้มีส่วนผสมของ Vitamin C ช่วยกระบวนการสร้าง Collagen และช่วยป้องกันอันตรายจากแสงแดด รวมทั้งมีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิว
3. Eucerin Hyaluron Filler Overnight Treatment
ครีมลดริ้วรอยแบบ 2 ซีรั่มเข้มข้นบรรจุแยกเพื่อคงความสดใหม่ประกอบไปด้วยซีรั่ม AHA Complex ช่วยผลัดเซลล์ผิวคล้ำเสียอย่างอ่อนโยนพร้อมฟื้นบำรุงผิวให้เนียนใส และซีรั่มไฮยาลูรอนเข้มข้น ทั้งโมเลกุลเล็กและใหญ่ ช่วยเติมริ้วรอยลึก และช่วยให้ผิวแน่นเด้งกระชับ อิ่มฟู เรียกได้ว่าเป็นครีมบํารุงผิวหน้าลดริ้วรอยที่คิดมาแล้วครบถ้วนเรื่องลดริ้วรอย
ส่วนผสมยอดนิยมในครีมลดริ้วรอยมีอะไรบ้าง
Retinol
หนึ่งในส่วนผสมลดริ้วรอยที่มักจะอยู่ในกลุ่มครีมลดริ้วรอย ครีมลดรอยเหี่ยวย่น ที่มาแรงสุด ๆ ในช่วงปีที่แล้วถึงปีนี้คงหนีไม่พ้น Retinol ครีมทาหน้าลดริ้วรอย ในปัจจุบันที่เคลมว่าช่วยในเรื่องลดริ้วรอย ต้องมี Retinol เป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญแน่นอน แล้ว Retinol คืออะไร ?
Retinol (เรตินอล) คืออนุพันธ์วิตามินเอ (Vitamin A) ทำหน้าที่ในการช่วยผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน ลดการเกิดสิวอุดตันในรูขุมขน จึงทำให้ผิวดูเรียบเนียน เต่งตึง ลดริ้วรอย ลดการเกิดสิว อย่างไรก็ตามอนุพันธุ์วิตามินเอนั้นมีความเข้มข้นหลายระดับ ผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้หรือผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรเริ่มใช้เรตินอลที่มีความเข้มข้นระดับต่ำ โดยทาในปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียวอาทิตย์ละ 2 วัน เฉพาะในช่วงกลางคืน แล้วจึงค่อย ๆ เพิ่มความถี่ขึ้น ข้อควรระวังคือเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ครีมลดริ้วรอยที่มีส่วนผสมของเรตินอลแล้วควรทาครีมกันแดดเป็นประจำด้วย
Bakuchiol
ครีมลดเลือนริ้วรอยที่มีส่วนผสมของ Bakuchiol (บา-กู-ชิล) เป็นอีกกลุ่มที่มาแรงไม่แพ้เรตินอลโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่แพ้เรตินอล ผู้ที่มีผิวบอบบาง ผู้ที่ให้นมบุตร หรือคุณแม่ตั้งครรภ์ เนื่องจาก Bakuchiol เป็นสารสกัดจากธรรมชาติช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดริ้วรอย แต่อ่อนโยนและมีโอกาสก่อให้เกิดการระคายเคืองน้อยกว่ากลุ่มเรตินอล
ครีมบํารุงผิวหน้าลดริ้วรอยในกลุ่ม Bakuchiol นั้นจะช่วยให้ผิวกระชับ ผิวดูมีความยืดหยุ่น นุ่ม อ่อนเยาว์ เนื่องจากครีมลดริ้วรอยในกลุ่มนี้จะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยผลัดเซลล์ผิว อย่างไรก็ตามแม้ว่า ครีมลดเลือนริ้วรอยในกลุ่ม Bakuchiol จะอ่อนโยนแต่ก็ควรทดสอบการแพ้โดยการทดลองทาครีมที่ท้องแขน หรือใช้ในปริมาณน้อย ๆ ก่อน
Peptides
Peptides (เปปไทด์) ส่วนผสมที่ครีมลบริ้วรอยในยุคนี้ต้องมี เปปไทด์ประกอบด้วยกรดอะมิโนหลายชนิด ช่วยสร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อผิว ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดริ้วรอย ช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวชุ่มชื้น แข็งแรง เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ไม่แพ้กลุ่มเรตินอลและ Bakuchiol ใครที่ใช้ทั้ง 2 กลุ่มแรกมาสักพักแล้วอยากลองหันมาใช้เปปไทด์ก็ได้เช่นกัน
Vitamin C
นอกจากครีมลดริ้วรอยต่าง ๆ แล้วควรเพิ่มวิตามินซีอยู่ในสกินแคร์รูทีนของคุณด้วย วิตามินซีเป็นอีกส่วนผสมหนึ่งที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยลดการอักเสบ และทำให้ผิวกระจ่างใส เหมาะสำหรับผู้ที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ และที่สำคัญเลยก็คือช่วยลดริ้วรอย
AHA
เมื่อใช้ครีมบํารุงลดริ้วรอยแล้วอย่าลืมมองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA ด้วย AHA ถือเป็น Active Ingredient อีกตัวหนึ่งที่มีประสิทธิภาพและให้ผลลัพธ์กับผิวอย่างชัดเจนอีกตัวหนึ่ง ประโยชน์ AHA ในด้านการลดริ้วรอยที่เราอาจไม่เคยรู้ก็คือ AHA จะช่วยผลัดเซลล์ผิว และกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการสร้างคอลลาเจนมากขึ้น จึงทำให้ผิวนุ่มฟู เต่งตึง กระชับ ริ้วรอยดูตื้นขึ้นและทำให้ดูผิวอ่อนเยาว์นั่นเอง นอกจากนี้ AHA ยังช่วยให้สิ่งอุดตัน สิ่งสกปรก ไขมันตามรูขุมขนหรือสิวอุดตันผลัดออกไปจากชั้นผิวหนังของเรา การใช้ AHA จึงช่วยลดสิวอุดตันได้ด้วย
Hyaluronic Acid
Hyaluronic Acid (HA) หรือ กรดไฮยาลูโรนิก คือสารที่เกิดตามธรรมชาติในร่างกายเราชนิดหนึ่ง ซึ่งไฮยาลูโรนิกพบได้ในผิวหนังชั้นหนังแท้ (Dermis) มีหน้าที่หลักคือช่วยอุ้มน้ำ กักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหนังของเราดูอิ่มฟู เด้ง เต่งตึง อย่างไรก็ตามเมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะผลิตกรดไฮยาลูโรนิกได้น้อยลงจึงทำให้ผิวหนังเริ่มดูหย่อนคล้อย ผิวแห้ง ทำให้เห็นริ้วรอยชัดขึ้น ดังนั้นในวงการสกินแคร์และในด้านการแพทย์จึงได้มีการสังเคราะห์ไฮยาลูโรนิกขึ้นเพื่อมาใช้ในผู้บริโภค
ปรึกษาเรื่องริ้วรอยกับคุณหมอที่แอป BeDee สะดวก ไม่ต้องเดินทาง
ครีมลดริ้วรอยสำคัญกับผิวอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้วการใช้ครีมลดริ้วรอย ครีมลดร่องแก้ม ตีนกา หรือบรรดาครีมลดรอยย่นหน้าผากนั้นหลายคนเข้าใจว่าควรใช้เมื่อผิวปัญหาหรือมีริ้วรอยเกิดขึ้นแล้ว แต่ปัจจุบันแนวโน้มผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อครีมบํารุงผิวหน้าลดริ้วรอยเพื่อป้องกันมากขึ้น มีการศึกษาหรือพิจารณาเลือกซื้อไปถึงสารออกฤทธิ์ในตัวครีมลดริ้วรอย และหลายคนก็หันมาเริ่มใช้กลุ่มครีมลดริ้วรอยตั้งแต่ช่วงอายุ 20 ปีต้น ๆ หรือตั้งแต่ยังไม่เกิดริ้วรอย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเพราะฝุ่นควัน มลภาวะ ความเครียด แสง UV ในปัจจุบันที่เราต้องเผชิญทำให้ผิวค่อย ๆ เกิดริ้วรอยหรืออนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว หรือแม้แต่ในช่วงอายุที่เพิ่มขึ้นการใช้ครีมลดริ้วรอยก็ยังมีประโยชน์อย่างยิ่งเช่นกันเพราะไม่ใช่ในด้านลดริ้วรอยเท่าโดยตรงเท่านั้น แต่การใช้ครีมลดริ้วรอยยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มฟู กระชับ เต่งตึง ดูมีสุขภาพดีโดยรวม
วิธีเลือกครีมลดริ้วรอยที่เหมาะกับเรา
เมื่อทำความรู้จักคุณสมบัติเฉพาะ รวมถึงจุดเด่นของส่วนผสมลดริ้วรอยต่าง ๆ มาคร่าว ๆ แล้ว ข้อมูลดังกล่าวจะเป็นข้อมูลสำคัญที่จะพิจารณาเลือกครีมลดริ้วรอยให้เหมาะกับสภาพผิวของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถพิจารณาตามปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- เลือกใช้ครีมลดริ้วรอยตามสภาพผิว เช่น ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวเป็นสิว ผิวบอบบางแพ้ง่าย
- เลือกตามปัญหาของผิว ณ ช่วงเวลานั้น ๆ เช่น มีริ้วรอยและสีผิวไม่สม่ำเสมอมีจุดด่างดำ มีริ้วรอยและมีสิว หรือมีริ้วรอยและผิวหน้าไม่เรียบเนียน เป็นต้น
อย่างไรก็ตามการเลือกใช้ครีมลดริ้วรอยชนิดใดก็ตามควรเริ่มต้นใช้ในปริมาณที่น้อย ๆ อาทิตย์ละประมาณ 1-2 วัน ก่อนจึงค่อย ๆ เพิ่มความถี่ หรือปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรเพิ่มเติมก่อนใช้