สิวอุดตัน

เมื่อพูดถึงเรื่อง “สิว” แล้วนั้นปัญหา “สิวอุดตัน” เป็นหนึ่งในศัตรูตัวร้ายของกลุ่มคนเป็นสิวเลยก็ว่าได้ เนื่องจากสิวอุดตันรับมือได้ยาก มักเกิดขึ้นพร้อมกันเป็นจำนวนมากและเกิดขึ้นในบริเวณกว้าง บางครั้งขึ้นมาเป็นสิวอุดตันหัวดำหรือสิวอุดตันหัวขาวบนในหน้า สร้างความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก แล้วเราควรรักษาสิวอุดตันอย่างไรดี

สารบัญบทความ

สิวอุดตัน คืออะไร


สิวอุดตัน (Comedones)คือ สิวหัวปิดชนิดหนึ่ง สิวอุดตันเกิดจากการอุดตันของไขมันและคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ ในรูขุมขน มีลักษณะเป็นตุ่มนูน บวม บางครั้งอาจพบว่าสิวอุดตันไม่มีหัว ไม่มีตุ่มหนองได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามหากดูแลรักษาสิวอุดตันไม่ดี ไม่ดูแลรักษาความสะอาดสิวอุดตันอาจพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบได้

สิวอุดตัน มีกี่ประเภท

ประเภทของสิวอุดตัน

สิวอุดตันนั้นยังสามารถแบ่งแยกออกไปได้อีกตามลักษณะของสิวดังนี้

1. สิวอุดตันหัวขาว (Whiteheads)

สิวหัวขาว(Whiteheads) หรือ สิวอุดตันหัวปิด (Closed Comedone) นั้นเป็นสิวประเภทหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มสิวอุดตัน สิวหัวขาว เกิดจากการอุดตันของสิ่งสกปรกภายในรูขุมขน เช่น น้ำมัน แบคทีเรีย คราบเหงื่อไคล เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดการอุดตันภายในรูขุมขนแล้วจึงทำให้เกิดหัวสิวเป็นหนองสีขาวหรือถุงซีสต์ (Cystic space) ที่มีลักษณะเป็นสิวอุดตันหัวปิด เมื่อบีบหรือกดสิวหัวขาวจะมีของเหลว เลือด หรือหนองไหลออกมา หลายคนนิยมกดสิวอุดตัน อย่างไรก็ตามหากรักษาความสะอาดไม่ดี หรือรักษาสิวอุดตันหัวขาวไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดสิวอักเสบตามมาได้ ดังนั้นการรักษาสิวควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น

2. สิวอุดตันหัวดำ (Blackheads)

สิวอุดตันหัวดำ (Blackheads) หรือ สิวอุดตันหัวเปิด (Open Comedone) คือลักษณะสิวอุดตัน ที่มีหัวสิวสีดำ แข็ง สาเหตุที่เราสังเกตเห็นสิวอุดตันหัวดำเนื่องจากเมื่อหัวสิวสีเหลืองหรือขาวในตอนแรกนั้นทำปฏิกิริยากับอากาศจึงทำให้หัวสิวกลายเป็นสีดำ สิวอุดตันหัวดำเกิดจากการอุดตันของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เส้นขน เนื้อเยื่อ และไขมันภายในรูขุมขนอุดตันในบริเวณผิวหนังชั้นตื้น หากเกิดสิวอุดตันหัวดำขึ้นนาน ๆ อาจทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้นได้

สาเหตุใดที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน มีอะไรบ้าง?

สิวอุดตัน เกิดจากอะไร

สิ่งที่หลายคนอาจสงสัยก็คือแล้วสิวอุดตันเกิดจากอะไร ? สำหรับสาเหตุการเกิดสิวอุดตันนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 สาเหตุดังนี้ 

  • ต่อมไขมัน (Sebum) ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ก่อให้เกิดการอักเสบ ประกอบกับการผลัดเซลล์ผิวที่ผิดปกติจึงทำให้เกิดการอุดตันขึ้นและกลายเป็นสิวอุดตัน
  • เซลล์ผิวหนัง (Keratinocytes) มีการเพิ่มจำนวนเซลล์ผิวหนังที่มากเกินไปและการผลัดเซลล์ผิวที่ช้าผิดปกติ อาจทำให้เกิดการอุดตันและนำมาซึ่งการเป็นสิวอุดตันได้
  • แบคทีเรีย C.Acnes ทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ
  • ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย

 

ปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน ได้แก่

  • ระดับฮอร์โมนเพศชายในร่างกายที่สูงเกินไปโดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น
  • ล้างหน้าบ่อยเกินไป
  • ทำความสะอาดผิวหน้าได้ไม่ดีพอทำให้เกิดสิ่งสกปรกตกค้างและสะสมจนเกิดสิวอุดตัน
  • สวมใส่เสื้อผ้าหนาทำให้เกิดการสะสมของเหงื่อ แบคทีเรีย 
  • สวมหน้ากากอนามัยจนทำให้เกิดการหมักหมมและการอับชื้น
  • ฝุ่น ควัน มลภาวะ
  • อาหาร อาหารบางชนิด เช่น อาหารทอด อาหารมัน ช็อกโกแลต นม และอาหารที่มีน้ำตาลสูงอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวอุดตันในบางรายได้ ทั้งนี้ควรหมั่นสังเกตตัวเอง
  • กรรมพันธุ์ พบว่าหากคนในครอบครัว เช่น พ่อ แม่ เคยเป็นสิวมากในช่วงวัยรุ่น อาจส่งผลให้ลูกมีสิวมากในช่วงวัยรุ่นเช่นกัน 
  • เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์บางอย่างที่เราใช้ ไม่ว่าจะใช้บริเวณใบหน้าหรือลำตัวอาจมีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง มีสีหรือน้ำหอม หรือแม้กระทั่งยาสระผม ก็สามารถทำให้เกิดสิวอุดตันได้ ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือผู้ที่มีสิวอุดตันควรระมัดระวังในการเลือกใช้
  • ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น
  • การใช้ยาบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น สเตียรอยด์

สิวอุดตันขึ้นบริเวณใดบ้าง

บริเวณที่เกิดสิวอุดตัน

สิวอุดตันสามารถเกิดขึ้นตามผิวหนังบริเวณที่มีไขมันมากเช่นเดียวกับสิวประเภทอื่น ๆ แต่โดยทั่วไปแล้วเรามักพบสิวอุดตันในบริเวณดังต่อไปนี้

  • สิวอุดตันที่จมูก สิวอุดตันที่จมูกหรือบริเวณขอบจมูกเป็นส่วนที่พบสิวอุดตันได้บ่อย เนื่องจากความมันและการสัมผัสใบหน้าระหว่างวันโดยที่เราไม่รู้ตัวจึงทำให้เกิดการอุดตันขึ้นได้ง่าย 
  • สิวอุดตันที่คาง เป็นปัญหาของคนส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ เนื่องจากคางเป็นจุดที่ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมามาก นอกจากนี้บริเวณคางยังเป็นจุดที่สัมผัสกับมือของเราบ่อยโดยไม่รู้ตัว เช่น การเท้าคาง การเกา หรือเสียดสีกับหน้ากากอนามัย จึงทำให้เกิดสิ่งสกปรกสะสมจนทำให้สิวขึ้นคางได้ในที่สุด
  • สิวอุดตันที่หน้าผาก พบได้บ่อยเนื่องจากเป็นส่วนที่มีเหงื่อออกเยอะ และเป็นบริเวณที่มีรูขุมขนและเป็นแหล่งผลิตน้ำมันบนใบหน้าเยอะจึงมีความมันมากกว่าบริเวณอื่นบนใบหน้า บางคนมีผมหน้าม้าหรือลูกผมอาจทำให้สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อยู่กับเส้นผมหรือฝุ่น ควัน มลภาวะ มาสัมผัสบริเวณหน้าผากได้เช่นกัน 
  • สิวอุดตันที่แก้ม เรียกได้ว่าเป็นบริเวณที่หลายคนมักเป็นสิวอุดตันรุนแรง เนื่องจากแก้มมักเป็นจุดที่สัมผัสกับหลายสิ่ง ทั้งเส้นผม หน้ากากอนามัย ปลอกหมอน โทรศัพท์มือถือ ดังนั้นผู้ที่มีสิวอุดตันที่แก้มบ่อยควรหมั่นเปลี่ยนหรือซักผ้าขนหนูสำหรับเช็ดหน้ารวมถึงปลอกหมอนทุกอาทิตย์เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดสิวอุดตันที่แก้ม
  • สิวอุดตันที่หลัง สิวอุดตันที่หลังเรียกได้ว่าเป็นปัญหายอดฮิตของหลายคนเช่นกัน แผ่นหลังเป็นส่วนหนึ่งที่มีความมันและยากต่อการดูแลและทำความสะอาด เป็นส่วนที่มีเหงื่อออกง่าย อยู่ในร่มผ้าและเกิดการอับชื้นได้บ่อยจึงเป็นจุดที่ทำให้เกิดสิวอุดตันที่หลังได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีสาเหตุจากฮอร์โมนและกรรมพันธุ์ได้เช่นกัน

วิธีรักษาสิวอุดตัน

สิวระดับไม่รุนแรง

หากสิวนั้นอยู่ในระดับเล็กน้อยไม่รุนแรง เช่น สิวผด สิวอุดตัน สามารถใช้ยาทารักษาสิว เช่น กลุ่ม Benzoyl Peroxide หรือกลุ่ม Retinoid เพื่อรักษาเบื้องต้นได้ 

 

สิวอักเสบระดับปานกลาง – มาก 

หากสิวอุดตันเกิดการอักเสบในระดับปานกลางถึงมาก สามารถใช้ยาทาปฏิชีวนะแต้มเฉพาะจุดควบคู่ด้วย ไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะเดี่ยว ๆ เพราะทำให้เสี่ยงต่อการดื้อยาได้ สำหรับสิวระดับรุนแรงแพทย์อาจจ่ายยาปฏิชีวนะ หรือกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอแบบรับประทานร่วมด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง

ดูแลผิวอย่างไรเมื่อมีสิวอุดตัน

ดูแลผิวเมื่อเป็นสิวอุดตัน
  1. รักษาความสะอาดใบหน้าหรือส่วนที่เกิดสิวให้แห้งสะอาดอยู่เสมอ ไม่ควรปล่อยให้เกิดการหมักหมมของเหงื่อและความมัน หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในช่วงที่เป็นสิวมากเพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันและทำให้สิ่งสกปรกสะสมได้ 
  2. ไม่ควรแกะ บีบ หรือสัมผัสบริเวณที่เป็นสิวอุดตัน
  3. ทายา ครีมรักษาสิวอุดตัน หรือรับประทานยารักษาสิวตามที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำ
  4. ไม่ควรซื้อยาฮอร์โมน ยาคุมกำเนิด หรือยาสเตียรอยด์มารับประทานเองโดยเด็ดขาด

การป้องกันสิวอุดตัน 

  1. ดูแลรักษาความสะอาดใบหน้าหรือส่วนที่เกิดสิวอุดตัน ให้แห้งสะอาดอยู่เสมอ ไม่ควรปล่อยให้เกิดการหมักหมมของเหงื่อและความมัน นอกจากอาบน้ำทั้งเช้าและเย็นแล้วยังควรอาบน้ำทำความสะอาดหลังออกกำลังกายทันทีเพื่อไม่ให้เกิดการหมักหมมของสิ่งสกปรก

  2. พักผ่อนให้เพียงพอ วิธีลดสิวอุดตันก็คือการนอนหลับ การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับร่างกาย รวมถึงผิวพรรณ โดยเฉพาะปัญหาสิว ขณะที่นอนหลับร่างกายจะมีการซ่อมแซมระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย มีการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่เซลล์เก่าในร่างกาย ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ลดรอยคล้ำใต้ดวงตา ผิวสว่างกระจ่างใส ตรงข้ามกับคนที่นอนดึกหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ผิวหนังจะเกิดริ้วรอยและสิวอุดตันได้ง่าย ผิวไม่สดใส ไม่เต่งตึง

    การนอนหลับที่ดี คือ การนอนหลับที่ครบทั้งระยะเวลาและคุณภาพ แม้เราจะนอนครบ 6-8 ชั่วโมงแต่เข้านอนดึกมากเกินไป หรือนอนหลับไม่สนิม ย่อมไม่ดีต่อสุขภาพแน่นอน ซึ่งช่วงเวลาที่ควรเข้านอนมากที่สุด คือ ตั้งแต่ 20.00-22.00 น. 

  3. รับประทานผักผลไม้ อยากมีผิวสุขภาพดี แน่นอนว่าอาหารมีผลอย่างมาก นอกจากการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว สิ่งที่ควรเน้นเลยก็คือ ผักและผลไม้ที่มีแร่ธาตุและวิตามิน ควรรับประทานให้หลากหลาย แต่ด้วยการใช้ชีวิตประจำวันในปัจจุบันอาจทำให้การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละวันเป็นเรื่องยาก สามารถเสริมได้ด้วยการรับประทานวิตามินและอาหารเสริมที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ ควรมีแพทย์และเภสัชกรคอยให้คำแนะนำอย่างชัดเจน
     
  4. ออกกำลังกาย วิธีรักษาสิวอุดตันที่ดีอีกวิธีหนึ่งเลยก็คือการออกกำลังกาย ลองสังเกตว่าเวลาเราออกกำลังกายผิวหน้าของเราจะดูดีเปล่งปลั่งขึ้น เคล็ดลับผิวสุขภาพดีก็คือการออกกำลังกาย เนื่องจากการออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดี ผิวพรรณก็เปล่งปลั่งสดใส นอกจากนี้เมื่อเราออกกำลังกาย ร่างกายจะขับของเสียออกมาพร้อมกับเหงื่อ เมื่อร่างกายขับของเสียออกมาแล้ว ผิวพรรณก็สดใสตามมาเช่นกัน

  5. หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด เนื่องจากการใช้ยารักษาสิวอุดตันบางชนิดอาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสงแดดและทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้ ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน สำหรับวิธีการเลือกครีมกันแดดนั้น ควรเลือกครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB มีค่า Sun protection factor (SPF) มากกว่า 30 ขึ้นไป อีกทั้งควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า Protection grade of UVA (PA) ที่เหมาะสมขึ้นกับสถานที่และกิจกรรมที่ทำในชีวิตประจำวัน โดยค่า PA สูงสุดคือ 4 ระดับ ซึ่ง PA++++ คือมีค่าประสิทธิภาพการป้องกันรังสียูวีเอสูงที่สุด นอกจากนี้ยังควรเลือกครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพในการกันน้ำและกันเหงื่อด้วย เพื่อให้อยู่กับผิวหนังได้นานยิ่งขึ้น
ครีมกันแดด ลดสิวอุดตัน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ สิวอุดตัน

1. สิวอุดตันรักษาด้วยตนเองได้ไหม?

การรักษาสิวอุดตัน ด้วยตัวเองนั้นอาจทำได้ในกรณี่ที่สิวอุดตันไม่รุนแรง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นสิวควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อวินิจฉัยว่าสิวที่เราเป็นอยู่นั้นคือสิวประเภทใดและควรรักษาด้วยวิธีใดจึงจะเหมาะสมที่สุด ไม่ควรซื้อยาทาสิวหรือยาเม็ดมารับประทานเองโดยเด็ดขาด

2. เป็นสิวอุดตันใช้อะไรดี?

สำหรับการใช้ยารักษาสิวอุดตันนั้นควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อให้ทีมแพทย์และเภสัชกรประเมินอาการและความรุนแรงของสิวอุดตันและจ่ายยาที่เหมาะสมกับอาการ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสมกับผู้ที่มีสิวอุดตันนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน แต่ยังให้ความชุ่มชื้น ไม่มีน้ำหอม ไม่ใส่สี ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ช้อปผลิตภัณฑ์ดูแลสิวอุดตันที่แอป BeDee พร้อมปรึกษาเภสัชกรไม่มีค่าใช้จ่าย

3. สิวอุดตันใช้เวลารักษานานแค่ไหน?

การรักษาสิวอุดตันในกรณีที่มีอาการไม่รุนแรงมากอาจใช้เวลารักษาประมาณ 4-8 สัปดาห์ แต่ในกรณีที่สิวอุดตันมีความรุนแรงอาจใช้เวลารักษานานหลายเดือนหรือาจเป็นปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่ร่างกายและความรุนแรงของสิวอุดตันในแต่ละบุคคลด้วย

4. สิวอุดตันไม่มีหัวบีบได้ไหม?

ไม่ควรบีบหรือกดสิวอุดตันด้วยตัวเองเพราะอาจทำให้สิวอักเสบกว่าเดิมได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อวินิจฉัยว่าสิวที่เราเป็นอยู่นั้นคือสิวประเภทใดและควรรักษาด้วยวิธีใดจึงจะเหมาะสมที่สุด

5. สิวอุดตันต้องกดไหม

หลายสงสัยว่าหากเป็นสิวอุดตันต้องกดไหม การกดสิวอุดตันนั้นสามารถทำได้แต่ต้องทำการรักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น เพราะหากเรากดสิวอุดตันเองหรือผู้ที่กดสิวไม่ใช่ผู้ที่เชี่ยวชาญอาจทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อจนแผลลุกลามได้

6. วิธีทายารักษาสิวอุดตั้น

สำหรับวิธีทายารักษาสิวอุดตันนั้นแตกต่างกันออกไปตามประเภทยารักษาสิว 

  • Benzoyl Peroxide ควรทาทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก 
  • ยาฆ่าเชื้อชนิดทา ควรแต้มหลังล้างหน้า ก่อนลงสกินแคร์
  • กรดอนุพันธ์วิตามินเอ ควรทาหลังล้างหน้าในช่วงกลางคืน และควรหลีกเลี่ยงแสงแดด

สิวอุดตันรักษาเองอาจแย่กว่าเดิม ปรึกษาแพทย์ด่วน 

เป็นสิวอุดตันไม่ควรบีบ กด หรือซื้อยามารักษาเองเพราะอาจทำให้สิวลุกลามและหายช้ากว่าเดิมได้ รีบปรึกษาหมอออนไลน์หรือปรึกษาเภสัชกร ที่แอป BeDee ได้ทุกวัน เรามีแพทย์และเภสัชกรพร้อมให้คำปรึกษาและจัดส่งสินค้า เลือกปรึกษาตามเวลาที่คุณสะดวก เป็นส่วนตัว ไม่ต้องเดินทาง สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @BeDeebyBDMS

 

 

 

Content powered by BeDee Expert

ภญ.วุฒิรัต ธรรมวุฒิ

เภสัชกร

Acne | American Skin Association. (n.d.). American Skin Association. https://www.americanskin.org/resource/acne.php

 

Comedonal acne | DermNet. (n.d.). https://dermnetnz.org/topics/comedonal-acne

บทความที่เกี่ยวข้อง

Key Takeaway   โรคเซ็บเดิร์มมักเกิดบริเวณที่มีการผลิตน้ำมันบนผิวหนังอย่างมาก เช่น เซ็บเดิร์มที่หน้า เซ็บเดิร์มหนังศีรษะ เซ็บเดิร์มที่จมูก ผู้ป่วยเซ็บเดิร์มมักพบผิวลอกเป็นขุย หรือเป็นแผ่นสีขาว บริเวณหัวคิ้ว ข้างจมูก ใบหู รอบปาก หนังศีรษะ มีอาการปวด คั

ผื่นลมพิษ หนึ่งในอาการที่หลายคนเคยเป็น แม้ลมพิษจะดูไม่อันตรายอะไรแต่ก็สร้างความรำคาญด้วยอาการผื่นแดงคัน ผื่นขึ้นตามตัว และอาการเห่อแดงของผื่นจนทำให้ไม่กล้าพบเจอใคร และในบางรายอาจมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นหอบ หายใจไม่ทัน หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นกัน