Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถทดแทนการให้คำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกครั้ง Key Takeaways พยาธิตัวตืดคือพยาธิประเภทหนึ่งที่มีลักษณะเป็นเส้นแบนยาวคล้ายริบบิ้น พบได้ในเนื้
ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก สำคัญอย่างไร ใครควรตรวจบ้าง?
Key Takeaways
- การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกคือการตรวจหาเซลล์ผิดปกติหรือก่อนเป็นมะเร็ง และตรวจหาการติดเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก
- ปัจจุบันมีการตรวจหลายวิธี เช่น Pap Smear, Thin Prep Pap Test, HPV DNA Testing รวมถึงการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจคัดกรองด้วยตัวเอง
- เลือกซื้อแพ็กเกจตรวจคัดกรองราคาพิเศษจากโรงพยาบาลในเครือ BDMS ได้ที่ Health Plaza
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกคืออะไร?
มะเร็งปากมดลูก คือก้อนเนื้อร้ายที่เกิดขึ้นบริเวณมดลูก ช่องคลอด และช่องปากมดลูกซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัส Human Papilloma Virus หรือ HPV ซึ่งเมื่อได้รับเชื้อ HPV นี้แล้วตัวเชื้ออาจเกิดความผิดปกติจนกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วย ปัจจุบันเชื้อ HPV นั้นมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่อันตรายต่อร่างกายมากที่สุดคือ สายพันธุ์ 16 และ 18
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกคือการตรวจหาเซลล์ผิดปกติหรือก่อนเป็นมะเร็ง และตรวจหาการติดเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก เป็นหนึ่งในการตรวจสุขภาพประจําปีที่สำคัญ ช่วยให้เรารู้ทันร่างกายของตัวเอง ช่วยให้ตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษา
BeDee Tips: ตรวจสุขภาพผู้หญิงตามช่วงอายุ ควรตรวจอะไรบ้าง? อ่านเลย!
วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมีกี่แบบ
หลายคนมักเกิดคำถามว่าแล้วเราควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกวิธีไหนดี ปัจจุบันมีวิธีการตรวจคัดกรองที่ได้รับความนิยมดังนี้
1. Pap Smear
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก Pap Smear คือการตรวจทางเซลล์วิทยาเพื่อตรวจหาเฉพาะเซลล์มะเร็งปากมดลูก โดยใช้วิธีแปปเสมียร์ (Pap smear หรือ liquid base cytology) แพทย์จะใช้ไม้พายเก็บเซลล์ตัวอย่างบริเวณปากมดลูก ก่อนนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ
2. Thin Prep Pap Test
ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก Thin Prep Pap Test คือหนึ่งในรูปแบบของการตรวจคัดกรองที่ใช้เทคโนโลยี Liquid-Based Cytology (LBC) ซึ่งถูกพัฒนาจาก Pap smear แบบเดิมเพื่อให้ได้ผลแม่นยำและชัดเจนมากขึ้น
3. HPV DNA Testing
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก HPV DNA Test คือการตรวจที่มักทำร่วมกับการตรวจเซลล์วิทยา (co-testing) เป็นการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกร่วมกับตรวจดีเอ็นเอของเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูก การตรวจวิธีนี้ให้ความแม่นยำสูง
4. ตรวจคัดกรองด้วยตัวเอง
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตัวเองเป็นการตรวจคัดกรองที่ผู้ตรวจสามารถเก็บตัวอย่างเพื่อหาเชื้อ HPV ด้วยตนเอง วิธีนี้ช่วยให้ผู้หญิงที่รู้สึกไม่สะดวกใจในการเข้ารับการตรวจโดยแพทย์สามารถทำได้เองที่บ้านหรือตามคลินิกที่ให้บริการ จากนั้นส่งตัวอย่างที่เก็บด้วยตนเองกลับมาที่โรงพยาบาลหรือสถานบริการเพื่อวิเคราะห์ผลทางห้องปฏิบัติการ
ช้อปแพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก HPV DNA และรูปแบบอื่น ๆ ราคาพิเศษได้เลยที่นี่
วิธีเตรียมตัวก่อนตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
เพื่อให้ผลการตรวจเป็นไปอย่างแม่นยำมากที่สุด ผู้ที่ต้องการตรวจคัดกรองควรงดทำกิจกรรมเหล่านี้อย่างน้อย 2 วันก่อนตรวจ
- งดมีเพศสัมพันธ์
- งดสวนล้างช่องคลอด
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาเหน็บช่องคลอด ยาฆ่าเชื้อ หรือเจลหล่อลื่น
- หลีกเลี่ยงการตรวจขณะมีประจำเดือน ควรในช่วงที่ไม่มีประจำเดือนหรือตรวจหลังจากหมดประจำเดือนแล้ว 5 วัน
เมื่อไหร่ถึงควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
การตรวจคัดกรองนั้นมีช่วงอายุที่เหมาะสมแก่การตรวจแตกต่างกันออกไปตามแต่ละวิธี ดังนี้
- การตรวจเซลล์วิทยา Pap Smear และ Thin Prep Pap Test
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกประเภทนี้ควรเริ่มตรวจเมื่ออายุ 25 ปีในสตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว หรือ 30 ปีในสตรีที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ตรวจคัดกรองทุก 2 ปีความถี่ในการตรวจคัดกรองอาจปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของบริบทในแต่ละพื้นที่ สามารถหยุดตรวจได้ หากอายุมากกว่า 65 ปี ถ้าผลตรวจไม่พบความผิดปกติติดต่อกัน 5 ครั้ง - HPV DNA testing ร่วมกับการตรวจเซลล์วิทยา (co-testing)
ควรเริ่มเมื่ออายุ 25 ปีในสตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว หรือ 30 ปีในสตรีที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ตรวจคัดกรองทุก 5 ปี เนื่องจากการตรวจประเภทนี้ให้ผลการตรวจที่แม่นยำสูง สามารถหยุดตรวจได้ หากอายุมากกว่า 65 ปี ถ้าผลตรวจไม่พบความผิดปกติติดต่อกัน 2 ครั้ง
คำแนะนำเพิ่มเติม
- สตรีที่ได้รับการฉีดวัคซีน HPV ควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเช่นเดียวกับสตรีทั่วไป เพื่อหาเซลล์ผิดปกติที่เกิดจากเชื้อ HPV เนื่องจากการฉีดวัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้ 100% และไม่สามารถรักษาอาการการติดเชื้อก่อนได้รับวัคซีนได้
- สำหรับประเทศไทย ยังไม่แนะนำให้สตรีที่อายุน้อยกว่า 25 ปี ตรวจคัดกรองเนื่องจากมะเร็งปากมดลูกในสตรีที่อายุน้อยกว่า 25 ปี ในประเทศไทยนั้นพบได้น้อย ยกเว้นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ติดเชื้อ HIV มีคู่นอนหลายคน เป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ควรตรวจคัดกรองทันที
หากไม่แน่ใจหรือมีข้อสงสัยในการตรวจสามารถปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมได้
ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่ไหนดี?
ควรตรวจคัดกรองกับโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ มีแพ็กเกจตรวจและโปรโมชันหลากหลายให้เลือก สะดวกและสบายกระเป๋าด้วยแพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกราคาโปรโมชันจากโรงพยาบาลในเครือ BDMS ช้อปสบายผ่าน health-plaza.com รวมหลากหลายแพ็กเกจ เช่น แพ็กเกจตรวจสุขภาพตามช่วงอายุ แพ็กเกจฉีดวัคซีน แพ็กเกจความงาม แพ็กเกจเลสิก แพ็กเกจสุขภาพช่องปาก และอื่น ๆ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
1. ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกร่วมกับการหาเชื้อไวรัส HPV ไหม?
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกร่วมกับการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV (HPV DNA Test) เป็นการตรวจที่มีประสิทธิภาพสูงมาก เพราะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการประเมินความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปากมดลูกในอนาคต
การตรวจที่มักทำร่วมกับการตรวจเซลล์วิทยา (co-testing) เป็นการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกร่วมกับตรวจดีเอ็นเอของเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูก
2. ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกกี่ปี?
- การตรวจเซลล์วิทยา Pap Smear และ Thin Prep Pap Test
ควรตรวจคัดกรองทุก 2 ปี ความถี่ในการตรวจคัดกรองอาจปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของบริบทในแต่ละพื้นที่ สามารถหยุดตรวจได้ หากอายุมากกว่า 65 ปี ถ้าผลตรวจไม่พบความผิดปกติติดต่อกัน 5 ครั้ง - HPV DNA testing ร่วมกับการตรวจเซลล์วิทยา (co-testing)
ควรตรวจคัดกรองทุก 5 ปี เนื่องจากการตรวจประเภทนี้ให้ผลการตรวจที่แม่นยำสูง สามารถหยุดตรวจได้ หากอายุมากกว่า 65 ปี ถ้าผลตรวจไม่พบความผิดปกติติดต่อกัน 2 ครั้ง
ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ตรวจก่อนมั่นใจกว่า
การตรวจคัดกรองมีความสำคัญอย่างยิ่ง ช่วยลดอัตราการเสียชีวิต และเพิ่มโอกาสในการรักษาได้ทันเวลาก่อนที่มะเร็งจะลุกลามหรือเข้าสู่ระยะรุนแรง
ช้อปแพ็กเกจสุขภาพได้เลยที่ Health Plaza รวมแพ็กเกจตรวจสุขภาพมาตรฐาน BDMS สะดวก ใช้งานง่าย พร้อมส่วนลด On Top
สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @healthplaza
Content powered by BeDee Expert
เรียบเรียงโดย
กรวรรณ ใจซื่อกุล
Cervical Cancer. (2024, March 5). WHO. https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/cervical-cancer
Mayo Clinic Staff. (2025, January 10). Cervical Cancer. Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/cervical-cancer/symptoms-causes/syc-20352501
Screening for Cervical Cancer. (2024, December 11). CDC. https://www.cdc.gov/cervical-cancer/screening/index.html