“ผื่นผ้าอ้อม” หรืออาการ “แพ้แพมเพิส” เป็นหนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยในทารกแรกเกิดหรือแม้แต่กลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องสวมใส่แพมเพิสแรกเกิดหรือสวมใส่แพมเพิสผู้สูงอายุเพื่อรองรับอาการปัสสาวะเล็ดเป็นเวลานาน อาการแพ้แพมเพิสสร้างความรำคาญในการใช้ชีวิตประจำวันเป็น
ดริปวิตามิน เพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายด้วย IV Drip
การทำ iv drip vitaminเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มาแรงสำหรับการดูแลตัวเองโดยเฉพาะคนที่ยุ่ง ไม่มีเวลา ต้องการการฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็วในทุกวันนี้ คนส่วนใหญ่เลือกดริปวิตามินผิวขาวเพื่อมุ่งหวังผลในเรื่องผิวขาว ผิวกระจ่างใส หรือช่วยในการปรับสมดุลให้ร่างกาย มาทำความเข้าใจกันเลยว่าการดริปวิตามิน คืออะไร อันตรายหรือไม่ เหมาะสมกับใครและมีข้อควรระวังอย่างไร
ทำความรู้จัก ดริปวิตามิน คืออะไร?
Intravenous Vitamin Therapy (IV Drip) หรือที่เราเรียกว่าการ “ดริปวิตามิน” คือการให้วิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ กรดอะมิโน หรือแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายผ่านทางหลอดเลือดดำ การดริปวิตามินจะแตกต่างจากการรับประทานวิตามินเนื่องจากไม่ต้องผ่านการดูดซึมหรือการย่อย วิตามินสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทันทีทำให้ร่างกายได้รับวิตามินสูงสุด ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟู สดชื่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสูตรหรือส่วนผสมของการdrip วิตามินที่เลือกรับและร่างกายแต่ละบุคคลด้วย การดริปวิตามินแบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
การดริปวิตามิน ดีอย่างไร?
การดริปวิตามิน หรือ iv drip วิตามินนั้นมีข้อดีหลายอย่างด้วยกัน ประโยชน์ของการดริปวิตามินโดยหลัก ๆ แล้วมีดังนี้
- วิตามินดริปช่วยให้สารอาหารสู่ร่างกายทันที ไม่ต้องผ่านการดูดซึม
- การดริปวิตามินทำให้เห็นผลลัพธ์จากวิตามินหรือแร่ธาตุได้รวดเร็วและชัดเจน
- การดริปวิตามินไม่ตกค้างในร่างกาย ขับออกทางปัสสาวะเช่นเดียวกับการรับประทานวิตามิน
- ประหยัดเวลา ไม่ต้องคอยรับประทานวิตามินทุกวัน
- สามารถเลือกสูตรวิตามินหรือแร่ธาตุที่เหมาะสมกับร่างกายได้
อย่างไรก็ตามการดริปวิตามินต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น ควรเลือกรับบริการจากโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ และไว้ใจได้ ปรึกษาการดริปวิตามินกับคุณหมอผ่านแอป BeDee ได้ทุกวัน
ความแตกต่างระหว่างดริปวิตามิน VS การทานวิตามิน
การดริปวิตามินเป็นที่นิยมในด้านความสวยความงาม เช่น การดริปวิตามินผิว ดริปวิตามินซี แต่การดริปวิตามินหรือการให้วิตามินทางเส้นเลือด แตกต่างจากการรับประทานวิตามินทั่วไปอย่างไรเป็นข้อที่คนทั่วไปมักจะสงสัย
สำหรับการดริปวิตามินนั้นคือการให้วิตามินทางเส้นเลือดซึ่งทำให้วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระหรือสารบำรุงต่าง ๆ แล้วแต่สูตรที่เราเลือกรับนั้นเข้าสู่หลอดเลือดดำและร่างกายและนำไปใช้งานได้ทันที ไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย ไม่ต้องผ่านการทำงานของตับ หรือรอการดูดซึมเหมือนการรับประทานวิตามิน และเมื่อเราดริปวิตามินแล้ววิตามินหรือแร่ธาตุเหล่านั้นก็จะถูกขับออกทางปัสสาวะ ไม่ตกค้างภายในร่างกาย หลายคนจึงเลือกดริปวิตามินผิว หรือการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดเพราะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินโดยตรงนั่นเอง
ส่วนการทานวิตามินนั้นเมื่อเรารับประทานวิตามินเข้าไปร่างกายจะต้องใช้ระยะเวลาในการย่อย ดูดซึม และนำสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ออกมาใช้กับร่างกายซึ่งปริมาณการดูดซึมของร่างกายนั้นอาจจะสามารถดูดซึมได้เพียงแค่ 50% เท่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายและระบบการดูดซึมสารอาหารของแต่ละบุคคลด้วย
อย่างไรก็ตามวิตามินแต่ละประเภทอาจเหมาะสมกับรูปแบบการทานหรือการดริปวิตามินแตกต่างกันไป ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางก่อนเลือกรับวิตามิน
BeDee มีแพ็กเกจราคาพิเศษดริปวิตามินลดความเหนื่อยล้าของร่างกายในผู้ที่ทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ รู้สึกไม่สดชื่น พร้อมปรึกษานักจิตวิทยาคลินิก ดูแลทั้งกายและใจให้พร้อมลุยงานต่อ เลือกช้อปแพ็กเกจที่เหมาะกับคุณเลย
ดริปวิตามินผิว อันตรายไหม?
แม้ว่าการดริปวิตามินจะทำให้เกิดผลข้างเคียงได้น้อยแต่สิ่งที่ควรระมัดระวังในการทำiv drip คือการเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ผู้ชำนาญการที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ เพราะจะทำให้แพทย์ได้ซักประวัติผู้ป่วยอาจประเมินร่วมกับผลเลือด เช่น ค่าการทำงานของตับและไตของผู้ป่วยโดยละเอียดและประเมินความเสี่ยงหรือความเหมาะสมในการทำดริปวิตามินได้
ดริปวิตามินเหมาะและไม่เหมาะกับใคร
การดริปวิตามินนั้นอาจเหมาะสมกับแต่ละบุคคลแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสูตรของวิตามินที่ดริป สุขภาพ หรือโรคประจำตัวเดิมรวมถึงการทำงานของร่างกายในแต่ละบุคคลด้วย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการทำ iv drip ทุกครั้ง
- ผู้ที่มีปัญหาด้านระบบการเผาผลาญ
- ผู้ที่มีปัญหาด้านภูมิแพ้
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการดริปวิตามิน
- หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่ให้นมบุตร
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยา หรือแพ้วิตามิน
- ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือ เคยมีประวัติผิวแพ้รุนแรง
- ผู้ป่วยโรคไตที่ต้องล้างไต
- ผู้ป่วย โรคตับรุนแรง
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษแพทย์ก่อนดริปวิตามิน
- ผู้ป่วยโรค G6PD
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
ผู้ที่มีปัญหาสุภาพเหล่านี้หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทำดริปวิตามินทุกครั้ง
การเตรียมตัวก่อนดริปวิตามิน
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่
- แจ้งข้อมูลสุขภาพ โรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ รวมทั้ง ยา หรือ วิตามินที่รับประทานเป็นประจำ ก่อนรับวิตามินดริปทุกครั้ง
- ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 1-2 ลิตร
หลังดริปวิตามิน ดูแลตนเองอย่างไร
หลังการดริปวิตามิน โดยเฉพาะการดริปวิตามินผิว เพื่อดูแลสุขภาพ หรือการดริปผิวขาว มีข้อห้ามหลังดริปวิตามินหรือข้อควรระวังดังนี้
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ควรทาครีมกันแดดที่มีค่าการป้องกันผิว SPF 50+ PA++++
- ทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ ควรเข้านอนไม่เกิน 22.00 น. เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังอย่างหนัก 24 ชม. หลังดริปวิตามิน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอหรืออย่างน้อย 150 นาที / สัปดาห์
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังดริปวิตามิน
โดยปกติแล้วสิ่งที่อาจพบได้ภายหลังการดริปวิตามินจะมีเพียงรอยเข็มเป็นจุดแดงเล็ก ๆ ภายหลังการเจาะเส้นเลือดเพื่อให้สารน้ำเท่านั้น ซึ่งรอยดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน แต่หากผู้ป่วยมีอาการแพ้วิตามินอาจมีอาการ คลื่นไส้ เวียนหัว ปวดท้อง มีผื่นขึ้นตามตัว ปวดท้อง หรือใจสั่นได้ หากเกิดอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์โดยด่วนที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ดริปวิตามิน
1. ควรดริปวิตามินบ่อยแค่ไหน?
ความถี่ในการดริปวิตามินนั้นต้องพิจารณาจากความเข้มข้นของวิตามินที่ได้รับและร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย โดยทั่วไปแล้วแนะนำให้ทำ iv drip สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ติดต่อกัน 3-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมทุกครั้ง
2. ดริปวิตามิน กี่ครั้งเห็นผล?
จำนวนครั้งในการดริปวิตามินนั้นขึ้นอยู่กับสูตรของวิตามินที่ได้รับและร่างกายของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม
3. หลังดริปวิตามิน ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม?
การดริปวิตามินโดยทั่วไปแล้วผลลัพธ์อาจอยู่ประมาณ 1-2 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิตามินที่รับและร่างกายแต่ละบุคคลด้วย
4. หากหยุดดริปวิตามินผิว ผิวจะกลับมาคล้ำหรือไม่?
สำหรับผู้ที่ดริปวิตามินผิว ดริปผิวใส ดริปผิวขาวเมื่อหยุดรับvitamin iv dripแล้วผิวสามารถกลับมาหมองคล้ำได้เนื่องจากการสัมผัสกับแสงแดด ฝุ่น ควัน และการใช้ชีวิตประจำวัน
ดริปวิตามินต้องปรึกษาแพทย์
ดริปวิตามินต้องเลือกแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น ปรึกษาหมอออนไลน์หรือปรึกษาเภสัชกร ที่แอป BeDee ได้ทุกวัน เรามีแพทย์และเภสัชกรพร้อมให้คำปรึกษาและจัดส่งสินค้า เลือกปรึกษาตามเวลาที่คุณสะดวก เป็นส่วนตัว ไม่ต้องเดินทาง สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @BeDeebyBDMS
Content powered by BeDee Expert
พญ. วิภาวัณย์ อรรณพพรชัย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ป้องกันและสุขภาพองค์รวม
Anti-Aging & Preventive Medicine
เรียบเรียงโดย
กรวรรณ ใจซื่อกุล
Charmley, S. (2023, March 27). What to know about IV therapy. https://www.medicalnewstoday.com/articles/iv-therapy#side-effects
PharmD, B. W., & Jc. (2022b, August 25). What Is IV Therapy? Benefits Of IV Drips. Mobile IV Medics. https://mobileivmedics.com/what-is-iv-therapy/