โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ อีกกลุ่มวัยที่ต้องเฝ้าระวัง
พูดถึงโรคซึมเศร้า เราอาจจะนึกถึงภาพถึงกลุ่มคนในช่วงอายุวัยรุ่น วัยทำงาน ที่ป่วยเป็นโรคนี้เพิ่มขึ้นในช่วงหลังมานี้ แต่มีอีกกลุ่มหนึ่งที่เราอาจไม่ได้นึกถึงว่าอาจเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าได้เช่นกันได้แก่กลุ่มผู้สูงอายุ โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุนั้นอันตรายไม่ต่างจากโรคซึมเศร้าในกลุ่มผู้ป่วยที่อายุน้อย เพราะบางทีเราอาจไม่ได้เฝ้าสังเกตอาการหรือพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด คิดว่าอาจเป็นนิสัยปกติทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นเพราะความชรา ซึ่งสุดท้ายอาจนำมาซึ่งความสูญเสียได้ มารู้จักโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ อาการ วิธีรักษา ดูแล และวิธีป้องกัน
ทำความรู้จักกับ “โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ” คืออะไร?
ประเทศไทยนับได้ว่าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging society) จากข้อมูลสถิติผู้สูงอายุไทย ปี 2563 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่ามีประชากรไทยที่อายุมากกว่า 60 ปี ถึง 12 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 18 ของประชากรทั้งหมด
โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ (Late-life depression : LLD) คือ โรคทางจิตเวชที่มีอาการหลักเป็นอารมณ์เศร้า บางรายอาจพบมีอารมณ์หงุดหงิดที่มากขึ้น โดยภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุมักพบร่วมกับอาการวิตกกังวล และมักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และพบได้สูงในผู้ที่เคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน
โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุนั้นผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการทางกาย เช่น ปวดเมื่อยบ่อย น้ำหนักลด นอนไม่หลับ เป็นต้น โดยที่แพทย์มักตรวจไม่พบสาเหตุที่สัมพันธ์กับอาการทางกายที่เป็น หาสาเหตุของอาการได้ไม่แน่ชัดและไม่ตรงไปตรงมา
ปรึกษาจิตแพทย์เรื่องโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุที่แอป BeDee สะดวก เป็นส่วนตัว ไม่ต้องเดินทาง
โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ สาเหตุเกิดจากอะไร
ปัจจัยทางชีวภาพ
- พันธุกรรม
- อายุมาก
- เพศหญิง
- มีโรคประจำตัว
- การรับรู้ทางประสาทสัมผัสบกพร่อง เช่น สายตาผิดปกติ หูได้ยินลดลง เป็นต้น
- ความสามารถทางด้านร่างกายและความจำบกพร่อง
- ยาที่รับประทาน
- ติดสารเสพติด
ปัจจัยทางจิตสังคม
- ความเครียด
- ปัญหาด้านเศรษฐกิจ รายได้น้อย
- ขาดแรงสนับสนุนจากสังคม
- มีความขัดแย้งกับคนในครอบครัว
- การสูญเสีย การเสียชีวิตของบุคคลรอบข้าง โดยเฉพาะการเสียชีวิตของคู่ครอง การสูญเสียตำแหน่งหน้าที่การทำงาน สูญเสียการได้รับการเคารพ
- บุคลิกภาพบางอย่าง เช่น ลักษณะย้ำคิดย้ำทำ วิตกกังวล
โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ มีอาการอย่างไร
อาการซึมเศร้าในผู้สูงอายุนั้นอาจแตกต่างออกไปตามแต่ละบุคคล แต่โดยมากแล้วโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุมักอาการที่สังเกตได้ดังนี้
- อ่อนเพลีย
- วิตกกังวล
- นอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป
- เบื่ออาหารหรือรับประทานมากเกินไป
- สมรรถภาพทางเพศลดลง
- เคลื่อนไหวช้าลงหรือกระสับกระส่าย
- สมาธิลดลง
- ความสามารถในการตัดสินใจลดลง
- โทษตัวเอง
- คิดว่าตนเองไร้ค่า
- สิ้นหวังท้อแท้
- คิดอยากตาย พยายามฆ่าตัวตาย
- แยกตัว ไม่อยากเข้าสังคม ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นลดลง
- หลงผิด ประสาทหลอน
สังเกตเห็นผู้สูงอายุซึมเศร้า ผู้สูงอายุอารมณ์แปรปรวน อย่าปล่อยไว้! รีบปรึกษาแพทย์เพื่อดูแลอาการ
โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุอันตรายไหม?
โรคซึมเศร้าผู้สูงอายุอาจเป็นโรคอันตรายได้ เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการรักษาล่าช้า มักทำให้สมรรถภาพทางกายและใจถดถอยได้อย่างรวดเร็ว ต้องใช้ระยะเวลาในการกลับสู่ภาวะปกติ และทำให้เกิดโอกาสในการกลับมาเป็นโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุซ้ำสูง และมักดื้อต่อการรักษา
โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวร่วมด้วยแล้ว ผลจากโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุจะยิ่งทำให้โรคทางกายเลวร้ายลงได้ เนื่องจากผู้สูงอายุมักไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา จึงทำให้การรักษาเป็นไปด้วยความยากลำบากยิ่งขึ้น และผลการรักษาไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นสูงและเพิ่มจำนวนวันในการนอนโรงพยาบาลนานกว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้มีโรคซึมเศร้าร่วม
นอกจากนี้ผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้า แม้จะมีอัตราการพยายามฆ่าตัวตายต่ำกว่าช่วงวัยทั่วไป แต่มีอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จสูงบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวจึงต้องระวังเป็นอย่างมาก
การวินิจฉัยโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ
ภาวะซึมเศร้าผู้สูงอายุเบื้องต้นแพทย์จำเป็นต้องสัมภาษณ์ประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจทางระบบประสาท และส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จำเป็นเพื่อแยกโรคอื่น ๆ ออกจากโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุก่อน เนื่องจากในกลุ่มผู้สูงอายุมักมีอาการที่คล้ายคลึงกับโรคอื่น ๆ ได้ เช่น บางรายอาจมีภาวะเกลือแร่ผิดปกติทำให้มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เฉี่อยชา เป็นต้น
การวินิจฉัยโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุแพทย์จะใช้อาการในการวินิจฉัยเป็นหลัก โดยอ้างอิงตามเกณฑ์การวินิจฉัยโรคซึมเศร้า DSM-5 Criteria คือ หากคุณมีอาการอย่างน้อย 5 ข้อในทั้งหมด 9 ข้อ โดยต้องมีอาการในข้อที่ 1 หรือ 2 และอาการดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องกันนานเกิน 2 อาทิตย์ และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต
- อารมณ์เศร้า
- สนใจสิ่งที่เคยสนใจลดลง
- น้ำหนักเปลี่ยนแปลง
- นอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป
- เคลื่อนไหวช้าลงหรือกระสับกระส่าย
- อ่อนเพลีย
- สิ้นหวังท้อแท้
- สมาธิแย่ลง
- คิดอยากตาย พยายามฆ่าตัวตาย
แบบประเมินเพื่อช่วยในการวินิจฉัย
- Patient Health Questionnaire 9-item depression scale (PHQ-9)
- Thai-Geriatric depression scale (TGDS) เป็นต้น
ทำแบบทดสอบโรคซึมเศร้ากับพยาบาลที่แอป BeDee เพื่อคัดกรองโรคเบื้องต้น ไม่มีค่าใช้จ่าย
การรักษาโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ
การรักษาโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุอาจใช้วิธีแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยปกติแล้ววิธีการรักษาโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุมีดังนี้
รักษาด้วยจิตบำบัด
สำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุที่อาการไม่รุนแรง แพทย์อาจจะใช้วิธีรักษาซึมเศร้าผู้สูงอายุด้วยจิตบำบัดเพียงอย่างเดียว แต่ในผู้ป่วยที่มีระดับความรุนแรงของอาการปานกลาง หรือรุนแรง แพทย์จะรักษาด้วยการใช้จิตบำบัดควบคู่กับการรับประทานยา การรักษาโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุด้วยจิตบำบัดนั้นมีทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว หลากหลายรูปแบบ ได้แก่ จิตบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม Cognitive Behavioral Therapy (CBT) พฤติกรรมบำบัด จิตบำบัดระหว่างบุคคล Interpersonal theraphy (IPT) ครอบครัวบำบัด การฝึกทักษะต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น ทักษะการแก้ปัญหา Problem solving therapy (PST) ทักษะการจัดการความเครียด ทักษะการจัดการความโกรธ ทักษะการสื่อสาร เป็นการสร้างเสริมทักษะชีวิต ทั้งนี้สามารถใช้จิตบำบัดร่วมกับการรับประทานยาในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมากขึ้นได้
รักษาด้วยยา
สำหรับคนไข้โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุที่มีอาการรุนแรงมากขึ้นแพทย์จะรักษาด้วยยาโรคซึมเศร้าเพื่อปรับสารสื่อประสาทในสมอง ช่วยควบคุมอารมณ์ของผู้ป่วย ในบางรายอาจใช้การรักษาซึมเศร้าในผู้สูงอายุด้วยการพูดคุยร่วมด้วย การเลือกยาจะเลือกตามชนิดของโรคซึมเศร้าที่ผู้ป่วยเป็น สิ่งสำคัญของการรักษาด้วยยาคือผู้ป่วยต้องรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดยาเองเพราะจะทำให้อาการกำเริบได้
รักษาด้วยไฟฟ้า
การรักษาโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุด้วยไฟฟ้า (Electroconvulsive therapy : ECT) คือการปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าผ่านศีรษะเพื่อไปกระตุ้นเซลล์สมองผ่านสมองส่วนหน้าซึ่งเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาการซึมเศร้าและอาการทางจิตเวช วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุที่ใช้การรักษาด้วยการพูดคุยและการใช้ยาไม่ได้ผลหรือผู้ป่วยภาวะซึมเศร้าผู้สูงอายุที่มีอาการรุนแรงมากมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายสูง
ไม่แน่ใจอาการโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุรีบปรึกษา นักจิตวิทยา กับ จิตแพทย์