แบบประเมินความเครียด

แบบประเมินความเครียดเป็นเครื่องมือคัดกรองโรคเครียดรูปแบบหนึ่ง เวลาที่เราเครียดเรามักประเมินความเครียดในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็สังเกตจากความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เช่นนอนไม่หลับ, ปวดหัวเรื้อรัง, กรดไหลย้อน, ท้องอืด เป็นต้น หรือประเมินความเครียดความผิดปกติทางจิตใจ เช่น รู้สึกวิตกกังวล คิดมาก หงุดหงิดโกรธง่าย เป็นต้น หรืออาจสังเกตจากความผิดปกติทางพฤติกรรม เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกฮอล์มากขึ้น ใช้สารเสพติด อย่างไรก็ตามนอกจากการเช็คโรคเครียดด้วยวิธีเหล่านี้แล้ว เรายังสามารถทดสอบความเครียดด้วยการทำแบบประเมินความเครียดได้ ซึ่งการทำแบบประเมินความเครียดมีขั้นตอนการประเมินที่ไม่ซับซ้อน ใช้เวลาไม่นาน และช่วยให้คุณสามารถวัดระดับความเครียดได้อย่างง่ายดายด้วยตนเอง

สารบัญบทความ

แบบประเมินและวิเคราะห์ความเครียด

แบบประเมินความเครียดอยู่ระดับใด

แบบประเมินความเครียดที่น่าสนใจและแนะนำให้ลองใช้วิเคราะห์ความเครียดของตนเองกันนั่นคือแบบประเมินความเครียด 5 ข้อ (ST-5) ซึ่งเป็นแบบสอบถามความเครียดที่มีข้อคำถามจำนวน 5 ข้อ โดยการประเมินอาการหรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเราในระยะเวลา 2-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา และให้ระดับคะแนนตั้งแต่ 0-3 ตามความถี่ที่ตรงกับตัวเรามากที่สุด (0 คือ มีความเครียดน้อยมากหรือแทบไม่มี ไปจนถึงระดับ 3 คือ มีความเครียดเกิดขึ้นประจำ) โดยมีการแปลผลช่วงคะแนนของความเครียดจำแนกได้เป็น 4 ระดับ คือ เครียดน้อย เครียดปานกลาง เครียดมาก และเครียดมากที่สุด 

 

แบบประเมินความเครียด (ST-5: Stress Test Questionnaire)

 

คำแนะนำในการทดสอบ: ต่อไปนี้เป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับท่าน โปรดอ่านแต่ละข้ออย่างรอบคอบ หลังจากที่ท่านอ่านแล้ว ให้เลือกคำตอบที่ตรงกับตัวของท่านมากที่สุดว่าอาการหรือความรู้สึกนี้ได้รบกวนท่านมากน้อยเพียงใดในช่วงระยะเวลา 2- 4 สัปดาห์

ข้อที่
อาการหรือความรู้สึกที่เกิดในระยะ 2-4 สัปดาห์
คะแนน
0
1
2
3
1
มีปัญหาการนอน นอนไม่หลับหรือนอนมาก
2
มีสมาธิน้อยลง
3
หงุดหงิด,กระวนกระวาย,วุ่นวายใจ
4
รู้สึกเบื่อ เซ็ง
5
ไม่อยากพบปะผู้คน
คะแนนรวม

การแปลผล
คะแนน 0-4 ความเครียดน้อย
คะแนน 5-7 ความเครียดปานกลาง
คะแนน 8-9 ความเครียดมาก
คะแนน 10-15 ความเครียดมากที่สุด

อ้างอิง กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข

การทำแบบประเมินความเครียด สำคัญอย่างไร

แบบประเมินความเครียดมีความสำคัญอย่างไร หลายครั้งที่ผลกระทบของความเครียดส่งผลต่อร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรม แต่หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังประสบกับภาวะเครียด จนทำให้เกิดความเครียดสะสม ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดโรคเครียด, โรคเครียดสะสมหรือโรคทางกายได้ ดังนั้นแบบประเมินความเครียดจึงมีความสำคัญที่จะทำให้เราได้สำรวจ ทดสอบ

ความเครียดของตนเองผ่านข้อคำถามต่าง ๆ โดยมีการแปลผลจำแนกความเครียดออกเป็นระดับที่ชัดเจน ทำให้เราเข้าใจความเครียดของตนเองได้ดีขึ้น และสามารถหาวิธีจัดการความเครียดได้อย่างเหมาะสม เพราะยิ่งเรารู้ตัวเร็วเท่าไหร่ เราจะยิ่งสามารถหาทางรับมือ และป้องกันกับความเครียดได้มากขึ้น นอกจากนี้แบบประเมินความเครียดยังช่วยทำให้เราทราบว่า เมื่อไหร่ที่เราสมควรได้รับคำแนะนำหรือความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย 

 

ทำแบบทดสอบแล้วพบว่ามีระดับความเครียดสูงหรือไม่มั่นใจระดับความเครียดของตัวเอง อยากหาทางจัดการและรับมือกับความคิดของตัวเอง ปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิกที่แอป BeDee

ใครบ้างที่ควรทำแบบประเมินความเครียด

ใครควรทำแบบประเมินความเครียด

แบบประเมินความเครียดเป็นแบบประเมินที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง แต่ใครกันบ้างที่เหมาะสำหรับทำแบบประเมินความเครียดนี้

  • แบบประเมินความเครียดเหมาะสำหรับคนที่กำลังเผชิญกับความกดดันและปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ เช่น ปัญหาด้านการทำงาน ความสัมพันธ์ การเงิน ครอบครัว สุขภาพ เป็นต้น
  • แบบประเมินความเครียดเหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องการประเมินสภาพจิตเบื้องต้น ประเมินความเครียดที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ หรือมีความประสงค์อยากคัดกรองความเสี่ยงโรคเครียด
  • แบบประเมินความเครียดเหมาะกับบุคคลที่อยากวัดระดับความเครียด ความรุนแรงของอาการ เพื่อหาวิธีการรับมือ และจัดการกับความเครียดได้อย่างเหมาะสม
  • แบบประเมินความเครียดเหมาะกับบุคคลที่มีการตระหนักรู้ในตนเองต่ำ เนื่องจากบุคคลเหล่านี้อาจมีภาวะเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว จนอาจนำไปสู่ความเจ็บป่วย หรือปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแบบประเมินความเครียด

1. แบบประเมินความเครียดสามารถวินิจฉัยโรคเครียดได้หรือไม่? 

แบบประเมินความเครียดไม่ใช่เครื่องมือวินิจฉัยโรค ดังนั้นแบบประเมินความเครียดจึงเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยคัดกรองภาวะความเสี่ยงของโรคเครียด (Mental Health Screening) ทั้งนี้การวินิจฉัยโรคเครียด ควรได้รับการประเมินจากจิตแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง อย่างไรก็ตามแบบประเมินความเครียดสามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจรักษา เพื่อติดตามความก้าวหน้า และผลลัพธ์ของการรักษาได้

2.การทำแบบประเมินความเครียดต้องทำภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญไหม? 

แบบประเมินความเครียด จัดเป็นเครื่องมือที่สามารถประเมินด้วยตนเองรูปแบบหนึ่ง (Self-Assessment) จึงไม่จำเป็นต้องทำแบบประเมินความเครียดภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญหรือบุคลากรทางการแพทย์

3. ความเครียดระดับใดที่ควรไปพบจิตแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ?

ระดับความเครียดที่ควรรีบปรึกษาแพทย์คือระดับความเครียดมากไปจนถึงระดับความเครียดมากที่สุด เพราะถือเป็นระดับความเครียดที่รุนแรง ควรรีบปรึกษาจิตแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินอาการและเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลเสียต่อตัวเองและบุคคลรอบข้างได้ 

สอบถามวิธีจัดการความเครียด นอนไม่หลับ วิตกกังวล หรือปัญหาสุขภาพใจอื่น ๆ กับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิก

สรุปแบบประเมินความเครียด หมั่นสังเกตอารมณ์และปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม 

การใช้แบบประเมินความเครียด นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการวิเคราะห์และทดสอบความเครียดด้วยตนเองใช้เวลาไม่นาน และสามารถรู้ผลได้ทันที หากเรารู้ระดับความเครียดของตนเอง จะช่วยให้เราสามารถจัดการกับความเครียดได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพจิตตามมา แต่หากความเครียดอยู่ในระดับที่รุนแรงขึ้น จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรได้รับการดูแลช่วยเหลือจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด

 

ทำแบบทดสอบพร้อมปรึกษาพยาบาล ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือเลือกปรึกษาหมอออนไลน์ปรึกษาเภสัชกรที่แอป BeDee ได้ทุกวัน เรามีจิตแพทย์ นักจิตวิทยาคลินิก และเภสัชกรพร้อมให้คำปรึกษาและจัดส่งสินค้าถึงมือ เลือกปรึกษาตามเวลาที่คุณสะดวก เป็นส่วนตัว ไม่ต้องเดินทาง สอบถามเพิ่มเติม Line Official : @BeDeebyBDMS

 

 

Content powered by BeDee Expert

ปุณยวีร์ บุญตาม

นักจิตวิทยาคลินิก

Cleveland Clinic, Stress: Signs, Symptoms, Management & Prevention. Retrieved 20 January 2024, from https://my.clevelandclinic.org/health/articles/11874-stress


MedlinePlus, Mental Health Screening: MedlinePlus Medical Test. Retrieved 20 January 2024, from https://medlineplus.gov/lab-tests/mental-health-screening/.


Marisa M. Tomasic,(2022) Stress Level Test (Self-Assessment). Retrieved 23 January 2024, from https://www.healthcentral.com/quiz/stress-test.

บทความที่เกี่ยวข้อง

*ข้อมูลทั้งหมดเป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้น ผู้ป่วยควรพบจิตแพทย์ควบคู่กับการดูแลตัวเองไปด้วย     วิธีรักษาโรควิตกกังวลหรือกลุ่มโรคทางจิตเวชทางด้านอารมณ์ต่าง ๆ นั้นควรจะต้องปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิกเพื่อรักษาและบำบัดอย่างใกล้ชิด และแน่นอนว่าการร

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่สิ่งแวดล้อมรอบตัวทำให้เรามีความเสี่ยงต่อความเจ็บป่วยทางจิตเวชมากมายโดยที่เราไม่รู้ตัว เช่น โรคเครียด, นอนไม่หลับ หรือแม้แต่โรคซึมเศร้า ก็ดูจะใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด ทุกวันนี้เรามีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำปรึกษาทางด้านจิตเวชมา